เปรียบเทียบ Samsung Galaxy S22 Ultra vs Galaxy Note 20 Ultra ต่างกันอย่างไร ซื้อรุ่นไหนดีในเมื่อมีปากกา S Pen เหมือนกัน

หนึ่งในไฮไลต์ของ Galaxy S22 Series ที่เพิ่งเปิดตัวไปคงหนีไม่พ้นรุ่น Galaxy S22 Ultra ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนตระกูล S Series รุ่นแรกที่มาพร้อมกับปากกา S Pen ในตัวเหมือนกับ Galaxy Note Series ซึ่งเป็นการพัฒนามาจากรุ่น Galaxy S21 Ultra ที่แม้ว่าจะรองรับปากกา S Pen เหมือนกัน แต่ตัวเครื่องจะไม่มีช่องใส่ปากกาแต่อย่างใด

อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนน่าจะเริ่มเกิดความสงสัยกันบ้างแล้วว่า ระหว่าง Galaxy S22 Ultra ที่เพิ่งเปิดตัวไป กับ Galaxy Note20 Ultra สมาร์ทโฟนตัวท็อปจาก Note Series ควรเลือกซื้อรุ่นไหนดีในเมื่อทั้งสองรุ่นต่างก็มาพร้อมกับปากกา S Pen ในตัว รวมถึงมีสเปกระดับไฮเอนด์ไม่แพ้กัน วันนี้เราไปหาคำตอบกันดีกว่าครับ

Galaxy S22 Ultra vs Note20 Ultra ดีไซน์ต่างกันตรงไหนบ้าง ?

สำหรับดีไซน์ภายนอกของ Galaxy S22 Ultra และ Galaxy Note20 Ultra ถูกออกแบบมาค่อนคล้ายคลึงกันด้วยขอบด้านข้างตัวเครื่องที่มีความเหลี่ยม ช่วยให้จับถือได้อย่างถนัดมือ ส่วนมิติตัวเครื่องก็ถือว่าใกล้เคียงกันเป็นอย่างมาก โดย Galaxy Note20 Ultra มีสัดส่วนอยู่ที่ 164.8 x 77.2 x 8.1 มิลลิเมตร พร้อมน้ำหนัก 208 กรัม ขณะที่ Galaxy S22 Ultra มาพร้อมกับสัดส่วนอยู่ที่ 163.3 x 77.9 x 8.9 มิลลิเมตร พร้อมน้ำหนักรวม 227 กรัม

ในส่วนของหน้าจอแสดงผลทั้งสองรุ่นมีขนาดที่ใกล้เคียงกันเป็นอย่างมาก โดย Galaxy Note20 Ultra มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาด 6.9 นิ้ว ความละเอียดระดับ 2K พร้อมค่า Refresh Rate ระดับสูงสุด 120Hz ขณะที่ Galaxy S22 Ultra มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียดระดับ 2K+ พร้อมค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz เช่นเดียวกัน

แต่หน้าจอแสดงผลของ S22 Ultra จะมาพร้อมกับเทคโนโลยี LTPO 2.0 ซึ่งสามารถปรับค่า Refresh Rate ได้อย่างละเอียดมากว่าไล่ตั้งแต่ระดับ 1-120Hz ทำให้ช่วยปรับการแสดงผลให้เหมาะสมกับคอนเทนต์ได้อย่างเหมาะสม และยังช่วยประหยัดการใช้งานแบตเตอรี่ รวมทั้งยังมีเทคโนโลยี Vision Booster Technology ที่จะช่วยปรับการแสดงผลของหน้าจอให้เหมาะกับสภาพแสงโดยรอบผู้ใช้แบบอัตโนมัติ

ในส่วนของด้านหลังมาพร้อมกับดีไซน์ที่เปลี่ยนไปได้เห็นแบบชัดเจน โดย Galaxy Note20 Ultra มาพร้อมกับกล้องหลังจำนวน 3 ตัว ความละเอียดสูงสุด 108 ล้านพิกเซล โดยกล้องทั้งหมดจะถูกจัดวางอยู่ในกรอบโมดูลที่เหลี่ยมชิดมุมซ้ายบน ขณะที่ทางด้านรุ่น Galaxy S22 Ultra มาพร้อมกับกล้องหลังจำนวน 4 ตัว ความละเอียดสูงสุด 108 ล้านพิกเซลเช่นเดียวกัน โดยกล้องที่ถูกเพิ่มเข้ามาจะเป็นกล้อง Telephoto ตัวที่สองสำหรับซูมภาพระยะกลาง แต่โมดูลกล้องของ Galaxy S22 Ultra จะไม่ได้ถูกวางไว้ในแถบโมดูลเหมือนกับ Galaxy Note20 Ultra แต่อย่างใด เรียกได้ว่าหากมองด้านหลังตัวเครื่องก็สามรถแยกรุ่นใหม่ออกจากรุ่นเก่าได้ทันที

ปากกา S Pen ต่างกันอย่างไร ?

สำหรับการจัดวางตำแนห่งของปากกา S Pen จะอยู่ที่มุมซ้ายล่างเหมือนกันทั้งคู่ ส่วนทางด้านคุณสมบัติ Samsung ระบุว่า ปากกา S Pen ของ Galaxy S22 Ultra มาพร้อมกับค่า Latency หรือค่าความหน่วงที่น้อยลงกว่าเดิมถึง 70% ทำให้สามารถวาด หรือเขียนได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้ ปากกา S Pen ของ Galaxy S22 Ultra ยังมีการใส่เซ็นเซอร์ Accelerometer รวมถึง Gyroscpe มาให้เหมือนกับ Note Series ทำให้สามารถใช้ฟังก์ชันวาดมือบนอากาศเพื่อสั่งการตัวเครื่องได้อีกด้วย

กล้องต่างกันอย่างไร ?

ในส่วนของกล้องถ่ายภาพ Galaxy S22 Ultra มีการอัปเกรดกล้องถ่ายภาพใหม่ด้วยการเพิ่มกล้อง Telephoto ตัวที่สอง สำหรับช่วยซูมภาพระยะกลาง โดยมีระยะโฟกัสภาพอยู่ที่ 70 มิลลิเมตร ซึ่งเรียกได้ว่าเหมาะแก่การถ่ายภาพบุคคล Portrait เป็นอย่างมาก รวมทั้งกล้องตัวหลักก็ยังได้ปรับไปใช้เซ็นเซอร์รับภาพตัวใหม่ที่มีพิกเซลใหญ่ถึง 2.4 ไมครอน พร้อมกระจกเลนส์แบบใหม่ Super Clear Glass lens ที่จะช่วยให้การถ่ายภาพ และวิดีโอมีความคมชัดมากยิ่งขึ้น

ในส่วนของฟีเจอร์ถ่ายภาพของทั้งสองรุ่นถือว่ามีความแตกต่างกันพอสมควร เนื่องจาก Galaxy S22 Ultra ได้มีการนำ AI Technology มาช่วยวิเคราะห์ และประมวลผลภาพมากขึ้นทำให้เกิดฟีเจอร์ใหม่ ๆ อย่าง AI Stereo Depth Map ที่สามารถเก็บรายละเอียดของตัวแบบแม้จะเป็นจุดเล็ก ๆ ได้อย่างละเอียด พร้อมกับเบลอฉากหลังได้อย่างเป็นธรรมชาติ และยังมีความสามารถด้านตัดขอบเส้นขนของสัตว์เลี้ยงได้อย่างแม่นยำเมื่อถ่ายภาพด้วยโหมด Portrait

ในส่วนของกล้องหน้าเซลฟี่ก็แตกต่างกันเช่นกัน โดย Galaxy S22 Ultra มาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียดสูง 40 ล้านพิกเซล ขณะที่รุ่น Galaxy Note20 Ultra มาพร้อมกับความละเอียด 10 ล้านพิกเซล ทำให้ Galaxy S22 Ultra เหมาะแก่การถ่ายทำคอนเทนต์ภาพ หรือวิดีโอด้วยกล้องหน้า และกล้องหลังแบบครบจบในเครื่องเดียวเป็นอย่างมาก

สเปกต่างกันอย่างไร ?

ในส่วนของสเปกถือว่ามีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดย Galaxy S22 Ultra ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย จะใช้ชิปเซ้ตตัวใหม่จากค่าย Qualcomm กับรุ่น Snapdragon 8 Gen1 ที่ผลิตด้วยสถาปัตยกรรมระดับ 4 นาโนเมตร ช่วยให้ประมวลผลได้รวดเร็ว และประหยัดการใช้พลังงานมากยิ่งขึ้น ขณะที่ Galaxy Note20 Ultra มาพร้อมกับชิปเซ็ต Exynos 990 ที่ผลิตด้วยสถาปัตยกรรมระดับ 7 นาโนเมตร+ (7nm+)

นอกจากสเปกด้านชิปเซ็ตที่ต่างกันแล้ว Galaxy S22 Ultra และ Galaxy Note20 Ultra ยังมีความแตกต่างกันในเรื่องของระยะเวลาการอัปเดต โดยในรุ่น Galaxy S22 Ultra จะได้รับการอัปเดตเวอร์ชันระบบปฏิบัตการเป็นระยะเวลาสูงสุด 4 เจเนเรชัน ขณะที่รุ่น Galaxy Note20 Ultra จะได้รับการอัปเดต OS เป็นระยะเวลานานสูงสุด 3 เจเนเรชัน

ราคาต่างกันอย่างไร ?

สำหรับราคาของ Galaxy Note20 Ultra ในปัจจุบันที่ยังคงหาซื้อได้ผ่านเว็บไซต์ของ Samsung จะอยู่ที่ 32,900 บาท ซึ่งเป็นรุ่นความจุ 256GB และรองรับการเชื่อมต่อบนเครือข่าย 5G ซึ่งหากเทียบกับรุ่นเริ่มต้นของ Galaxy S22 Ultra ที่เปิดราคาวางจำหน่ายเริ่มต้นที่ 39,900 บาท จะพบว่ามีส่วนต่างกันอยู่ทั้งหมด 7,000 บาทด้วยกัน ซึ่งหากใครที่อยากประหยัดเงินส่วนต่างตรงนี้ Galaxy Note20 Ultra ก็อาจดูเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ต้องไม่ลืมว่าในขณะนี้ Galaxy 22 Ultra มีโปรโมชันพรีออเดอร์ที่สามารถนำเครื่องเก่าไปแลกเป็นเครื่องใหม่ พร้อมอัปเกรดความจุฟรี รวมถึงสิทธิพิเศษ รวมถึงส่วนลดต่าง ๆ ทำให้ท้ายที่สุดแล้วราคาเครื่องของ Galaxy S22 Ultra อาจอยู่ที่ประมาณ 22,000-24,000 บาทเท่านั้น ทำให้ Galaxy S22 Ultra ดูจะเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่าเป็นอย่างมาก

แต่อย่าไรก็ตาม หากใครที่ต้องการใช้งาน Galaxy Note20 Ultra ในราคาสบายกระเป๋า และไม่ได้ต้องการนำมือถือเครื่องเก่าไปแลกเป็นเครื่องใหม่ จากที่ทีมงานตรวจสอบบนร้านค้าออนไลน์จากแพลตฟอร์ม Shopee และ Lazada ก็พบว่า ยังคงมีเครื่องศูนย์มือ 1 วางจำหน่ายผ่านร้านค้าตัวแทนต่าง ๆ อยู่ โดยมีราคาถูกสุดอยู่ที่ประมาณ 23,900 บาทเท่านั้น แต่จะเป็นรุ่นที่รองรับ 4G ไม่ใช่ 5G แต่อย่างไร

อย่างไรก็ดี สมาร์ทโฟนรุ่นใดจะดีที่สุดทางทีมงานคงไม่สามารถตัดสินได้ เพราะส่วนหนึ่งต้องขึ้นอยู่กับความชื่นชอบส่วนบุคคลด้วย หากทดลองใช้งานแล้วถูกใจ ก็ถือว่าน่าจับจองเป็นเจ้าของแล้วครับ

เปรียบเทียบสเปกในเบื้องต้นระหว่าง Galaxy S22 Ultra vs Galaxy Note20 Ultra