หน้าแรกมือถือ > รวมข่าวมือถือ > หน้าบทความ ข่าวมือถือ
   
Date : 20/2/2562

รวม 10 ฟีเจอร์เด่นของ Samsung Galaxy S10 อัปเกรดจากเดิมอย่างไร มีอะไรใหม่บ้าง มาดูกัน!

 

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ Samsung Galaxy S10, Galaxy S10+ และ Galaxy S10e สมาร์ทโฟนระดับเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ Samsung ที่ในปีนี้มีการอัปเกรด และยกเครื่องหลายด้าน เริ่มตั้งแต่ ดีไซน์ตัวเครื่อง, กล้องถ่ายภาพ ไปจนถึงประสิทธิภาพการทำงาน

เชื่อว่าหลายท่านอาจจะยังไม่ทราบว่า Galaxy S10 Series ทั้งสามรุ่นมีความเปลี่ยนแปลง หรือแตกต่างจากรุ่นก่อนอย่าง Galaxy S9 Series อย่างไรบ้าง ดังนั้นในวันนี้ทางทีมงาน Thaimobilecenter จึงได้สรุปฟีเจอร์เด่นออกมาเป็น 10 หัวข้อย่อย เพื่อเป็นข้อมูลให้แก่ทุกท่าน หากพร้อมแล้ว ไปติดตามกันเลยครับ

 

หน้าจอขอบบางเฉียบยิ่งกว่าเดิม บนดีไซน์ใหม่แบบ Infinity-O Display

Samsung Galaxy S10 ทั้งสามรุ่นปรับไปใช้ดีไซน์หน้าจอแบบใหม่ล่าสุดในชื่อ Infinity-O Display โดยเป็นการขยายหน้าจอให้มีความบางเฉียบติดขอบมากกว่าเดิม แต่จะมีการเจาะรูไว้ที่บริเวณมุมขวาบนของตัวเครื่องเล็กน้อยสำหรับติดตั้งกล้องหน้าเซลฟี่ โดยในรุ่น Galaxy S10 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียดคมชัดระดับ 2K+ ด้านรุ่น Galaxy S10+ มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลใหญ่สุดในซีรีส์ที่ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียดคมชัดระดับ 2K+ ขณะที่รุ่น Galaxy S10e มีหน้าจอเล็กสุดที่ขนาด 5.8 นิ้ว ความละเอียดคมชัดระดับ Full HD+

 

แผงหน้าจอแบบใหม่ Dynamic AMOLED พร้อมเทคโนโลยี HDR10+

หน้าจอของ Samsung Galaxy S10 ทั้งสามรุ่นปรับไปใช้แพนแนลจอแบบใหม่ในชื่อ Dynamic AMOLED ที่รองรับมาตรฐานการแสดงผลแบบ HDR10+ เป็นรุ่นแรกของโลก ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกันกับที่ใช้บนขจอภาพของโทรทัศน์ Samsung นั่นเอง โดย HDR10+ มีจุดเด่นด้านการแสดงสีสัน, เฉดสี, ความสว่าง และความคมชัดได้กว้างยิ่งขึ้น ซึ่งในปัจจุบันเราเริ่มเห็นคอนเทนต์ที่สนับสนุนมาตรฐาน HDR10+ กันบ้างแล้ว รวมทั้งจอของ Galaxy S10 Series ยังรองรับเทคโนโลยี Dynamic Tone Mapping และมีค่า JNDC หรือค่าความต่างของสีที่สามารถสังเกตุได้แค่เพียง 0.4 JNDC เท่านั้น ซึ่งหมายความว่า สีสันที่แสดงจากหน้าจอของ Galaxy S10 Series จะมีความเที่ยงตรงสูงนั่นเอง

 

สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ Ultrasonic รุ่นแรกของโลก!

ระบบความปลอดภัยก็ได้อัปเกรดใหม่เช่นเดียวกัน โดยครั้งนี้ Galaxy S10 Series ปรับไปใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือฝังใต้หน้าจอแบบ Ultrasonic เป็นครั้งแรกของโลก ซึ่งระบบแบบใหม่นี้จะต่างกับระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอแบบ Optical เหมือนกับสมาร์ทโฟนทั่วๆ ไปที่สามารถถูกปลอมแปลงลายนิ้วมือได้ง่าย เพราะเป็นการบันทึกภาพลายนิ้วมือผู้ใช้งานแบบ 2 มิติ และนำมาเทียบกันเท่านั้น นอกจากนี้ ระบบ Optical ยังไม่สามารถสแกนลายนิ้วมือได้เมื่อนิ้วมือเกิดคราบเปื้อน แต่สำหรับ Ultrasonic แล้วถือว่าต่างออกเป็น เพราะใช้วิธีการอ่านค่าลายนิ้วมือผ่านการส่งคลื่น Ultrasonic ที่ช่วยให้ตรวจสอบลายนิ้วมือได้อย่างแม่นยำลงไปถึงระดับร่องลายนิ้วมือ และยังเป็นการอ่านค่าลายนิ้วมือแบบ 3 มิติ ทำให้มีความปลอดภัยเพียงพอต่อการนำไปยืนยันเพื่อทำธุรกรรมทางการเงินนั่นเอง

 

กล้องหน้าคมชัดขึ้น โฟกัสไวขึ้น พร้อมรองรับถ่ายวิดีโอ 4K รุ่นแรกของโลก!

อีกหนึ่งจุดเด่นที่ได้รับการอัปเกรดในปีนี้คือเรื่องกล้องถ่ายภาพ โดยกล้องหน้าของ Galaxy S10 Series ทั้งสามรุ่นปรับไปใช้กล้องความละเอียด 10 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.9 จากรุ่นเดิมที่มีกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกฌซล โดยในรุ่น S10 และ Galaxy S10e จะมาพร้อมกับกล้องหน้าเดี่ยวความละเอียด 10 ล้านพิกเซล ส่วน Galaxy S10+ มาพร้อมกับกล้องหน้าคู่ ประกอบด้วย กล้องตัวหลัก 10 ล้านพิกเซล และกล้องตัวรองแบบ Depth ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สำหรับช่วยตรวจจับระยะชัดตื้น เพื่อทำให้การถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอมีความแม่นยำขึ้นนั่นเอง

นอกจากนี้ กล้องหน้าของ Galaxy S10 Series ทั้งสามรุ่นยังได้อัปเกรดระบบโฟกัสภาพใหม่แบบ Dual Pixel ที่สามารถโฟกัสได้อย่างฉับไวแม้ในที่แสงน้อย ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกันกับที่เคยใช้บนกล้องหลังของ Samsung รวมถึงกล้องใหญ่ของค่าย Canon นั่นเอง รวมทั้งยังมาพร้อมกับโหมดถ่ายวิดีโอความละเอียดระดับ 4K เป็นรุ่นแรกของโลกอีกด้วย

 

กล้องหลังจัดเต็ม 3 ตัวระดับ Pro-Grade พร้อมเลนส์มุมกว้างพิเศษ Ultra Wide ครั้งแรกของ Galaxy S-Series

Samsung Galaxy S10 และ Galaxy S10+ ในปีนี้ปรับไปใช้ระบบกล้องหลัง 3 ตัว (Triple Camera) แทนที่รุ่น Galaxy S9 Series ที่ใช้กล้องเพียง 1 หรือ 2 ตัว โดยใน Galaxy S10 Series นั้น ทาง Samsung ยังคงเลือกใช้กล้องตัวหลักเลนส์ Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และกล้องเลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเช่นเดิม แต่ได้เพิ่มกล้องเลนส์ Ultra Wide แบบใหม่ ที่มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล โดยกล้องเลนส์ Ultra Wide นั้น มีจุดเด่นด้านองศาในการรับภาพที่กว้างถึง 123 องศา สามารถเก็บภาพวิวทิวทัศน์ที่อยู่ตรงหน้าได้โดยไม่ต้องถอยออกนั่นเองครับ ส่วนทางด้านรุ่น Galaxy S10e จะมาพร้อมกับกล้องจำนวน 2 ตัว ประกอบไปด้วย กล้องเลนส์ Wide และกล้องเลนส์ Ultra Wide

นอกจากนี้ กล้องเลนส์ Ultra Wide ยังมีความสามารถพิเศษอีกหนึ่งอย่างนั่นก็คือ การทำงานร่วมกับฟังก์ชัน Super Steady หรือการถ่ายวิดีโอพร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวด้วยซอฟท์แวร์ ซึ่งเป็นการนำเอาประโยชน์ของความกว้างเลนส์ Ultra Wide มาประกอบกับระบบกันสั่นที่ทำงานได้อย่างสมูธ ทำให้ Galaxy S10 Series ถ่ายวิดีโอที่ให้ฟีลแบบกล้อง Action Camera ได้ในตัวนั่นเอง

 

ถ่ายรูปสวยเหมือนมือโปรด้วย Scene Optimizer และ Best Shot Suggestion

สำหรับ Scene Optimizer หรือฟีเจอร์ที่ช่วยปรับแต่งภาพถ่ายให้มีความสวยงาม ผ่านการวิเคราะห์ฉาก และวัตถุต่างๆ ที่อยู่ภายในเฟรมด้วยปัญญาประดิษฐ์ เป็นฟีเจอร์ที่ถูกใช้มาตั้งแต่รุ่น Galaxy Note 9 แล้ว แต่ในรุ่น Galaxy S10 Series มีการอัปเกรดเรื่องความฉลาดในการตรวจจับซีนให้มากขึ้นเป็น 30 ซีน ครอบคลุมการถ่ายภาพในทุกๆ สถานการณ์ นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ที่เอาใจผู้ที่อาจไม่ถนัดการถ่ายภาพมากนักโดยเฉพาะอย่าง Best Shot Suggestion ซึ่งจะเป็นการแนะนำผู้ใช้ด้านการจัดองค์ประกอบภาพให้ออกมามีความสวยงามเหมาะสม ด้วยการนำ AI และ Machine Learning ที่ผ่านการเรียนรู้ภาพถ่ายในรูปแบบต่างๆ มาแล้วกว่า 100,000,000 รูป

 

แรงด้วยขุมพลังตัวใหม่ Exynos 9820 และ RAM สูงสุด 12GB!

Samsung Galaxy S10 ทั้งสามรุ่นปรับไปใช้ชิปเซ็ตตัวใหม่ล่าสุดที่ทาง Samsung พัฒนาขึ้นในชื่อ Exynos 9820 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่ผลิตด้วยสถาปัตยกรรมระดับ 8 นาโนเมตร ซึ่งประสิทธิภาพโดยรวมของ CPU แรงขึ้นกว่าชิปรุ่นก่อนที่ใช้บน Galaxy S9 Series และ Galaxy Note 9 ราว 19%, หน่วยประมวลผลกราฟิกแรงขึ้น 37% แถมยังประหยัดการใช้พลังงานมากกว่าเดิมราว 15% เลยทีเดียว โดย Exynos 9820 จะทำงานควบคู่กับหน่วยความจำ RAM เริ่มต้นที่ 12GB แต่ใน Galaxy S10+ จะมีรุ่นพิเศษในชื่อ Ceramic Edition ที่มาพร้อมกับ RAM จัดเต็มถึง 12GB ทำให้มั่นใจได้ว่าการใช้งานแบบ Multi-tasking ทั้งในโหมดสมาร์ทโฟน หรือในโหมด DeX ที่แปลงร่างสมาร์ทโฟนให้ทำงานในรูปแบบ PC นั้น จะต้องเป็นไปอย่างลื่นไหลแน่นอน

 

ความจุจัดเต็ม 1TB ครั้งแรกของ Samsung

นอกเหนือการจัดเต็มด้าน RAM แล้ว ด้านความจุก็จัดเต็มไม่แพ้กัน โดย Galaxy S10 Series ทั้งสามรุ่นจะมาพร้อมกับหน่วยความจำภายในความจุเริ่มต้นที 128GB เหมือนกันทั้งหมด และสามารถเพิ่มหน่วยความจำเสริมแบบ microSD Card ได้สูงสุดที่ 512GB แต่ในรุ่น Galaxy S10+ รุ่น Ceramic Edition จะมาพร้อมกับความจำจุใจถึง 1TB เป็นครั้งแรกของสมาร์ทโฟน Samsung นอกจากนี้ ยังสามารถเพิ่ม SD Card ได้อีกด้วย ตอบโจทย์คอนเทนต์ในปัจจุบันที่ขยับไปเป็น 4K ส่วนมาก รวมทั้งกล้องหน้า-หลัง Galaxy S10 Series ก็ยังรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ 4K ด้วยนั่นเอง

 

บอดี้กระจกกันน้ำ IP68 พร้อมฝาหลังเซรามิกในรุ่นพิเศษ

Samsung Galaxy S10 Series ยังความพรีเมียมในด้านดีไซน์เอาไว้เช่นเคย โดยมาพร้อมกับบอดี้กระจก Gorilla Glass 5 ที่มีความเงางาม พร้อมขึ้นโครงด้วยเฟรมอะลูมิเนียมซีรีส์ 7000 สุดแกร่ง ซึ่งตัวเครื่องของ Galaxy S10 Series รองรับมาตรฐานการกันน้ำที่ระดับ IP68 สามารถกันน้ำได้ลึก 1.5 เมตร เป็นเวลานาน 30 นาที นอกจากนี้ ใน Galaxy S10+ รุ่นพิเศษแบบ Ceramic Edition จะปรับไปใช้วัสดุในการผลิตบอดี้ด้านหลังต่างจากรุ่นปกติ ด้วยฝาหลังที่ทำมาจากเซรามิก ซึ่งเป็นวัสดุที่ขึ้นชื่อด้านความแข็งแกร่งคงทน

 

Wireless PowerShare ชาร์จไร้สายให้กับอุปกรณ์อื่น!

ปิดท้ายด้วยฟีเจอร์ใหม่อีกหนึ่งอย่างนั่นก็คือ Wireless PowerShare หรือฟีเจอร์ที่ช่วยแปลงร่าง Galaxy S10 Series เป็นพาวเวอร์แบงค์สำหรับจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์อื่นๆ ได้แบบไร้สาย เพียงแค่นำอุปกรณ์นั้นมาวางไว้บนฝาหลังของ Galaxy S10 Series เท่านั้น โดยสามารถชาร์จได้กับทุกอุปกรณ์ที่รองรับมาตรฐาน Qi Wireless Charging ไม่ว่าจะเป็น นาฬิกาอัจฉริยะ, หูฟังไร้สาย รวมไปถึงสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ เรายังสามารถใช้งานฟีเจอร์ Wireless PowerShare ขณะที่เสียบสายชาร์จแบตเตอรี่ให้กับ Galaxy S10 Series ได้อีกด้วย ซึ่งถือว่าตอบโจทย์ในบางสถานการณ์ที่ผู้ใช้พกสายชาร์จไปเพียงแค่เส้นเดียว แค่ก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ทั้งสองอุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน

 

จะเห็นได้ว่า Samsung Galaxy S10 Series มีการเปลี่ยนแปลงรอบด้านเลยทีเดียว ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า Galaxy S10 Series จะเปิดราคาวางจำหน่ายในประเทศไทยเอาไว้ที่เท่าไหร่ และจะมีโปรโมชันอะไรที่น่าสนใจบ้าง โดยหากทีมงานมีข้อมูลเพิ่มเติม จะรีบนำมาอัปเดตให้ทุกท่านได้รับทราบโดยเร็วที่สุดครับ

 

ที่มา : Samsung


วันที่ : 20/2/2562

Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy