เปรียบเทียบ Samsung Galaxy S10 ทั้ง 3 รุ่นกับ Samsung Galaxy S9|S9+ อัปเกรดขึ้นมาแค่ไหน มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง?

Samsung Galaxy S10 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดได้เปิดตัวกันไปเรียบร้อยแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้ก็มีการเปิดเผยสเปกทั้งหมดพร้อมกับราคาวางจำหน่ายในไทยออกมาแล้วครบทั้ง 3 รุ่นได้แก่ Galaxy S10e, Galaxy S10, Galaxy S10+ แต่ทั้งนี้หลายๆ ท่านอาจจะอยากทราบว่า Samsung Galaxy S10 ที่เพิ่งออกมาใหม่ ต่างกับ Samsung Galaxy S9 ที่เป็นรุ่นก่อนหน้าแค่ไหน อย่างไร คุ้มหรือไม่ที่จะซื้อตอนนี้ เพื่อคลายข้อสงสัยทางทีมงาน Thaimobilecenter จึงได้นำ Samsung Galaxy S10 ทั้ง 3 รุ่น และ Samsung Galaxy S9|S9+ มาเปรียบเทียบสเปกและฟีเจอร์ให้ดูกันชัดๆ ในบทความนี้ เราไปชมกันเลยครับ

(คลิกเพื่อดูรูปใหญ่)

เริ่มกันที่ดีไซน์ภายนอกกันก่อน Samsung Galaxy S10 มีดีไซน์ที่แตกต่า่งจาก Galaxy S9 พอสมควร โดยเปลี่ยนมาใช้หน้าจอไร้ขอบเจาะรูฝังกล้องหน้า (Infinity O Display) ทำให้มีพื้นที่ในการแสดงผลมากขึ้น ในขณะที่ Galaxy S9 เป็นหน้า Infinity Display ที่ไม่มีรอยบาก ไม่มีรูกล้อง แต่มีขอบด้านบนและด้านล่างเล็กน้อย ในส่วนนี้คงขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าจะชอบดีไซน์แบบไหนมากกว่ากัน ส่วนท่านใดที่ชอบมือถือจอไม่โค้ง มีเพียงรุ่นเดียวให้เลือกคือ Galaxy S10e นอกนั้นจะเป็นจอขอบโค้งทั้งหมดครับ

เมื่อพลิกมาดูตัวเครื่องด้านหลัง จะพบว่าทั้ง Galaxy S10 และ Galaxy S9 มีฝาหลังแบบโลหะครอบกระจกทั้งคู่ และมีความเงาวาวสวยงามไม่ต่างกัน แต่ Galaxy S10 จะมีการจัดวางกล้องในแนวนอนที่ให้ความรู้สึกคล้ายกับมือถือตระกูล Note แต่ไม่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ เพราะมีการเปลี่ยนไปใช้เซ็นเซอร์สแกนนิ้วแบบฝังใต้จอ (ยกเว้น Galaxy S10e ย้ายไปอยู่ที่ปุ่ม Power ด้านข้างตัวเครื่อง) สัมผัสในการจับถือไม่ต่างกันมากนัก

คุณสมบัติอีกอย่างหนึ่งที่ได้รับการอัปเกรดขึ้นอย่างชัดเจนคือการถ่ายภาพ ไม่ว่าจะด้านฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ โดย Galaxy S10 จะมากับเซ็นเซอร์รับภาพรุ่นใหม่ที่มีความละเอียดสูงกว่า และติดตั้งกล้องมาให้มากกว่า โดยมีทั้งเลนส์ Ultra Wide และ Telephoto ทำให้มีตัวเลือกในการถ่ายภาพมากขึ้น โดยเฉพาะ Galaxy S10+ ที่จัดเต็มด้วยกล้องหน้าคู่ และกล้องหลัง 3 ตัว นอกจากนี้ยังเพิ่มประเภทวัตถุในโหมด Scene Optimizer ที่ใช้ AI วิเคราะห์และตกแต่งภาพเป็น 30 ประเภท ส่วน Scene Optimizer ของ Galaxy S9 จะมีแค่ 20 ประเภทเท่านั้น อีกทั้งยังเพิ่มโหมด Smart Composition ช่วยแนะนำการจัดองค์ประกอบภาพ ช่วยให้ตากล้องมือใหม่ถ่ายรูปสวยๆ ได้ง่ายขึ้น และยังมีอื่นๆ อีกมากมาย แต่ทั้งนี้ คุณภาพของภาพถ่ายของ Galaxy S10 ต่างกับ Galaxy S9 แค่ไหน จำเป็นต้องทดสอบด้วยการถ่ายจริงกันในคราวต่อไป

ในส่วนของการใช้งานทั่วไปและความบันเทิง Galaxy S10 มากับชิปเซ็ต Exynos 9820 ที่มีประสิทธิภาพโดยรวมสูงกว่า ชิป Exynos 9810 ใน Galaxy S9 ราวๆ 20% และหน่วยประมวลผลกาฟิก Mali-G76 M12 ที่มาด้วยกันก็มีความแรงอยู่ในระดับท็อปคลาส จึงน่าจะรอวรับเกมทุกเกมบน Play Store ได้แบบลื่นๆ แต่เมื่อนำมาเล่นเกมจริงๆ อาจจะไม่ต่างกับกับ Galaxy S9 มากนัก เพราะจริงๆ แล้วสเปกของ Galaxy S9 ก็ยังถือว่าสูงอยู่ และแรงพอที่จะรันเกมสมัยใหม่ได้สบาย อาจต้องรออีกสักพักจนกว่าจะมีเกมที่กินกราฟิกสูงๆ เปิดตัวออกมามากขึ้น เราจึงจะเห็นพลังของ S10 ชัดขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่จะมองข้ามไปไม่ได้คือรูกล้องบนหน้าจอที่อาจรบกวนสายตาเวลาเล่น เพราะไม่มีฟังก์ชันซ่อน และการเล่นเกมแบบเต็มจอจะแสดงทับรูกล้องโดยไม่มีการเว้นขอบ ซึ่งหลายคนอาจจะไม่ชิน ส่วนระบบเสียงเพื่อความบันเทิงเป็นลำโพงสเตอริโอ AKG และระบบ Dolby ATMOS ทั้งคู่ ตอบสนองการดูหนังฟังเพลงเล่นเกมได้เป็นอย่างดี แต่ประสิทธิภาพจะต่างกันหรือไม่ต้องรอทดสอบกับตัวเครื่องจริงกันต่อไป

สำหรับฟีเจอร์อื่นๆ ที่เพิ่มเข้ามาใน Galaxy S10 หลักๆ จะเป็นการสแกนนิ้วใต้จอ ที่แม่นยำและรวดเร็วขึ้น เพราะเป็นการสแกนด้วยคลื่นเสียงอัลตร้าโซนิค และสแกนขณะนิ้วเปียกได้ แต่จำเป็นต้องใช้ฟิล์มกันรอยแบบเฉพาะที่ไม่หนาเกินไป ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหากับการสแกนนิ้วได้ ทั้งนี้ Galaxy S10 มีฟิล์มกันรอยติดมาให้จากโรงงานแล้ว ซึ่งมีการเว้นช่องว่างบนจอบริเวณที่มีเซ็นเซอร์สแกนฝังอยู่ จึงไม่จำเป็นต้องหาซื้อฟิล์มกันรอยที่อื่น นอกจากนี้ยังมี Wireless Power Share ที่ช่วยให้การชาร์จไร้สายสามารถพลิกแพลงได้มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม Galaxy S10 ทุกรุ่นจะไม่มีเซ็นเซอร์สแกนม่านตาเหมือนกับ Galaxy S9 และรุ่นก่อนๆ แล้ว แต่ยังสแกนหน้าแบบ 2D ได้ตามปกติครับ

โดยสรุปแล้ว Samsung Galaxy S10 มากับชิปเว็ตที่แรงขึ้นและ RAM ที่มากขึ้น ส่งผลให้ประสิทธิภาพโดยรวมดีขึ้นตามที่ควรจะเป็น การอัปเกรดที่โดดเด่นจะเป็นเรื่องกล้องที่เพิ่มลูกเล่นเข้ามามากขึ้น แต่มีจุดขัดใจอยู่บ้างตรงรูบนจอที่ยังซ่อนไม่ได้ และการสแกนนิ้วใต้จอที่ต้องเว้นช่องฟิล์มกันรอยไว้ หากท่านใดต้องการฟีเจอร์สนับสนุนในการถ่ายภาพที่ดีขึ้น Samsung Galaxy S10 ก็เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า แต่ถ้าต้องการใช้งานทั่วไป หรือดูหนัง เล่นเกม Samsung Galaxy S9|S9+ ก็ถือว่าเพียงพอแล้วครับ

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com

วันที่ : 21/2/2562