เปรียบเทียบ Samsung Galaxy Fold (ราคาประมาณ 62,000 บาท) และ Huawei Mate X (ราคาประมาณ 81,700 บาท) สองสมาร์ทโฟนจอพับได้รุ่นแรกของค่าย แตกต่างกันอย่างไร มาดูกัน!
สมาร์ทโฟนจอพับได้ ถือเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่น่าจับตามองในปี 2019 เพราะมีข่าวว่าแบรนด์สมาร์ทโฟนชื่อดังหลายค่ายเตรียมที่จะเปิดตัวมือถือจอพับได้ให้เห็นกันภายในปีนี้ โดยเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ได้มีสมาร์ทโฟนจอพับได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ Samsung Galaxy Fold และ Huawei Mate 20 X ซึ่งทั้งสองรุ่นเป็นสมาร์ทโฟนจอพับได้รุ่นแรกของค่ายเหมือนกันทั้งคู่
เชื่อว่าหลายท่านอาจจะยังไม่ทราบว่า Samsung Galaxy Fold และ Huawei Mate X สองสมาร์ทโฟนจอพับได้สุดล้ำนี้ มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ทางทีมงานจึงนำสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นมาเปรียบเทียบคุณสมบัติในเบื้องต้นเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้แก่ทุกท่าน หากพร้อมแล้ว ไปรับชมกันเลยครับ
ตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติ Samsung Galaxy Fold และ Huawei Mate X
เปรียบเทียบรูปแบบการพับ
Samsung Galaxy Fold และ Huawei Mate X แม้จะออกแบบมาให้มีดีไซน์จอพับได้เหมือนกันทั้งคู่ แต่รูปแบบวิธีการพับหน้าจอถือว่าแตกต่างกันสิ้นเชิง โดย Samsung Galaxy Fold จะเป็นการพับหน้าจอด้านในทั้งสองด้านเข้าหากัน และเปลี่ยนไปใช้หน้าจอแสดงผลอีกหนึ่งตัวที่ติดตั้งอยู่ด้านหน้าสำหรับใช้งานในโหมดสมาร์ทโฟน ทำให้หน้าจอขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านในจะได้รับการปกป้องจากรอยขีดข่วนที่อาจเกิดขึ้นได้เมื่อไม่ได้ใช้งาน
ส่วน Huawei Mate X จะเป็นการพับหน้าจอขนาดใหญ่ไปยังด้านหลัง และใช้งานหน้าจอที่ถูกพับไว้ส่วนหนึ่งสำหรับทำงานในโหมดสมาร์ทโฟน ส่งผลให้หน้าจอที่ถูกพับเก็บไว้อาจมีโอกาสที่เกิดรอยขีดข่วนจากสิ่งของภายนอกได้ง่ายกว่า
เปรียบเทียบขนาดหน้าจอแสดงผล
ทั้งสองรุ่นยังมีความแตกต่างในเรื่องของขนาดหน้าจอ โดย Samsung Galaxy Fold มาพร้อมกับหน้าจอด้านนอกขนาด 4.6 นิ้ว และเมื่อกางออกจะมีขนาดหน้าจอใหญ่ที่ 7.3 นิ้ว ขณะที่ Huawei Mate X Fold มาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ 6.6 นิ้วเมื่อพับเป็นสมาร์ทโฟน และเมื่อกางออกจะมีหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 8 นิ้ว
นอกจากนี้ ดีไซน์ของหน้าจอทั้งสองรุ่นก้มีความแตกต่างเช่นเดียวกัน โดย Samsung Galaxy Fold จะมาพร้อมกับขอบจอที่หนากว่า และมีรอยบากบริเวณมุมขวาของหน้าจอด้านใน สำหรับติดตั้งกล้องหน้า และเซ็นเซอร์ต่างๆ ส่วน Huawei Mate X มาพร้อมกับจอไร้รอยบาก เพราะได้ย้ายกล้องทั้งหมดไปติดตั้งเอาไว้ที่บริเวณบานพับของตัวเครื่อง แต่จุดที่ต้องพิจารณาคือ ผู้ใช้จะไม่สามารถใช้งานฟังก์ชันวิดีโอคอลได้ขณะที่กางหน้าจอออกได้ เพราะไม่มีกล้องติดตั้งอยู่ที่หน้าจอนั่นเอง
เปรียบเทียบปริมาณแบตเตอรี่
นอกเหนือจากหน้าจอและ ดีไซน์แล้ว ทั้งสองรุ่นยังมีความแตกต่างในเรื่องของแบตเตอรี่ โดย Samsung Galaxy Fold มาพร้อมกับแบตเตอรี่จำนวนสองก้อน ความจุรวม 4380mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ Samsung Fast Charge ส่วน Huawei Mate X มาพร้อมกับแบตเตอรี่สองก้อนเช่นเดียวกัน ความจุรวมที่ 4500mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ Huawei SuperCharge ที่จ่ายไฟได้สูงสุดที่ 55W ซึ่งถือว่าเป็นระบบชาร์จที่เร็วที่สุดในโลก ณ ชั่วโมงนี้
เปรียบเทียบกล้องถ่ายภาพ
ด้านกล้องถ่ายภาพ Samsung Galaxy Fold มาพร้อมกับกล้องมากถึง 6 ตัวในเครื่องเดียว โดยแบ่งออกเป็น กล้องด้านหน้าตัวเครื่อง ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล (ติดตั้งอยู่ที่หน้าจอด้านนอก), กล้องสองตัวที่ติดตั้งอยู่ด้านในตัวเครื่อง ความละเอียด 10 + 8 ล้านพิกเซล (ติดตั้งอยู่ที่หน้าจอด้านใน) พร้อมกล้องหลังจำนวน 3 ตัว ประกอบไปด้วย ก้ลองตัวหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, กล้องเลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และกล้องเลนส์มุมกว้างพิเศษแบบ Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
ส่วน Huawei Mate X มาพร้อมกับกล้องจำนวน 3 ตัวที่พัฒนาร่วมกับ Leica ซึ่งจะถูกติดตั้งเอาไว้ที่บริเวณบานพับทั้งหมด โดยเลือกใช้เซ็ตอัพกล้องที่คล้ายกับรุ่น Mate 20 Series ซึ่งประกอบไปด้วย กล้องตัวหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล, กล้องเลนส์ Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และกล้องเลนส์มุมกว้างแบบ Ultra Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
เปรียบเทียบสเปกเบื้องต้น
ทางด้านประสิทธิภาพการทำงานก็มีความแตกต่างกันเล็กน้อย โดย Samsung Galaxy Fold มาพร้อมกับ RAM ขนาด 12GB ส่วน Huawei Mate X มาพร้อมกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 8GB ส่วนคุณสมบัติด้านอื่นๆ ถือว่าใกล้เคียงกัน ไม่ว่าจะเป็น การขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตประมวลผลที่ผลิตด้วยสถาปัตยกรรมระดับ 7 นาโนเมตร, หน่วยความจำภายในความจุ 512GB, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ฝังเอาไว้ใต้ปุ่ม Power หรือการรองรับการเชื่อมต่อบนเครือข่าย 5G
ปิดท้ายด้วยราคาวางจำหน่าย โดย Samsung Galaxy Fold เปิดราคาขายที่ 1,980 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 62,000 บาท เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 26 เมษายนเป็นต้นไป ส่วน Huawei Mate X เปิดราคาขายในยุโรปที่ 2,299 ยูโร หรือประมาณ 81,700 บาท เริ่มขายช่วงกลางปี 2019 นี้ แต่อย่างไรก็ดี เนื่องจากราคาเปิดตัวของสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นใช้สกุลเงินไม่เหมือนกัน ส่งผลอาจมีความแตกต่างในเรื่องของราคาวางจำหน่าย ทำให้ต้องติดตามราคาขายของสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นในกลุ่มตลาดเดียวกันอีกครั้ง
ทั้งนี้การเปรียบเทียบด้านต้นก็เป็นเพียงการเปรียบเทียบทางด้านสเปกเบื้องต้นเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้แก่ทุกท่านเท่านั้น สมาร์ทโฟนรุ่นใดจะดีกว่ากันทางทีมงานคงไม่สามารถตัดสินได้ เพราะส่วนหนึ่งคงต้องขึ้นอยู่กับความชื่นชอบส่วนบุคคลด้วย หากทดลองเล่นแล้วถูกใจ ก็ถือว่าน่าจับจองเป็นเจ้าของแล้วครับ
ที่มา : PhoneArena
วันที่ : 25/2/2562
