เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยในวันที่ 26 มกราคม 2021 นี้แล้ว สำหรับ OPPO Reno5 Series 5G สมาร์ทโฟน Reno Series รุ่นล่าสุดที่มาพร้อมกับจุดเด่นด้านการถ่ายภาพด้วยสโลแกน "Picture Life Together" ที่สื่อถึงประสิทธิภาพด้านการถ่ายภาพ และการถ่ายวิดีโอที่ถ่ายทอดเรื่องราวในชีวิตประจำวันได้อย่างสนุกมากยิ่งขึ้น 

และเนื่องในโอกาสที่ทีมงานได้มีโอกาสทดลองใช้งาน OPPO Reno5 Series 5G เป็นกลุ่มแรกๆ ในประเทศไทย จึงไม่พลาดที่จะเก็บภาพมาทำพรีวิวให้ทุกท่านได้รับชมกัน โดย OPPO Reno5 Series 5G ตัวจริงจะมีความสวยงามเพียงใด และจะมีฟีเจอร์อะไรที่น่าสนใจบ้าง ไปติดตามพร้อมกับทีมงาน Thaimobilecenter กันได้เลยครับ

 

สำหรับ OPPO Reno5 Series 5G ที่ทางทีมงานได้รับมาในวันนี้จะมีด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ OPPO Reno5 และ OPPO Reno5 5G โดยทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับกล่องผลิตภัณฑ์สีเขียวมินต์ตัดด้วยสีดำ ดูสวยงามแปลกตาจาก Reno Series รุ่นอื่นๆ พอสมควร ซึ่งความแตกต่างของกล่องผลิตภัณฑ์ของทั้งสองรุ่นนี้จะอยู่ที่ตัวอักษร 5G เท่านั้น

 

เมื่อแกะกล่องกล่องออกมา จะพบกับอุปกรณ์พื้นฐานที่แถมมาให้แบบครบครัน ได้แก่ อแดปเตอร์จ่ายไฟ, สายเชื่อมต่อแบบ USB Type-C สำหรับโอนถ่ายข้อมูล หรือชาร์จแบตเตอรี่, เคสใส, คู่มือประกอบการใช้งาน และเข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด

 

สำหรับอแดปเตอร์จ่ายไฟของสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่น รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วเหมือนกันทั้งคู่ โดยในรุ่น OPPO Reno5 รองรับระบบชาร์จเร็วแบบ 50W Flash Charge ซึ่งใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่เพียงแค่ 5 นาที ก็เพียงพอต่อการเล่นวิดีโอต่อเนื่องได้นานถึง 3 ชั่วโมง ขณะที่รุ่น OPPO Reno5 5G มาพร้อมกับอแดปเตอร์จ่ายไฟที่รองรับเทคโนโลยี 65W SuperVOOC 2.0 ซึ่งใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่เพียง 5 นาที ก็เพียงพอต่อการใช้งานที่ยาวนานถึง 4 ชั่วโมง และสามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ได้ในเวลาเพียง 35 นาทีเท่านั้น

 

มาดูที่ตัวเครื่องกันบ้าง สำหรับ OPPO Reno5 และ Reno5 5G มาพร้อมกับดีไซน์โดยรวมที่เหมือนกันแทบทุกประการ ด้วยหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ (2400x1080 พิกเซล) พร้อมค่า Refresh Rate ระดับ 90Hz กับค่า Touch Sampling Rate สูงสุด 180Hz และรองรับการแสดงผลตามขอบเขตสีแบบ sRGB ครอบคลุม 100%

 

ที่ด้านบนของหน้าจอแสดงผลทั้งสองรุ่น มาพร้อมกับกล้องหน้าเซลฟี่แบบเจาะรู โดยในรุ่น OPPO Reno5 มาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียดระดับ 44 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างขนาด f/2.4 ส่วนทางด้านรุ่น OPPO Reno5 5G มาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียดระดับ 32 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างขนาด f/2.4

 

ที่ด้านล่างของหน้าจอแสดงผลของทั้งสองรุ่น มาพร้อมกับปุ่มควบคุมแบบสัมผัสบนหน้าจอ ประกอบไปด้วย ปุ่ม Recent Apps สำหรับเรียกดูแอปพลิเคชันทั้งหมดที่เปิดใช้งาน, ปุ่ม Home สำหรับย้อนกลับไปยังหน้าโฮมสกรีน และปุ่ม Back สำหรับย้อนกลับ นอกจากนี้ ทาง OPPO ยังมีการติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอแบบ Hidden Fingerprint Unlock

 

ที่ด้านซ้ายของตัวเครื่องของทั้งสองรุ่น ประกอบไปด้วย ถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Dual nano-SIM และปุ่มปรับระดับเสียง

 

ที่ด้านบนของตัวเครื่องทั้งสองรุ่น มาพร้อมกับไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวน

 

ที่ด้านขวาของตัวเครื่องทั้งสองรุ่น ติดตั้งปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอแสดงผล

 

ที่ด้านล่างของตัวเครื่องทั้งสองรุ่น ประกอบไปด้วย ช่องเสียบหูฟังมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟนสำหรับสนทนา, พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C และลำโพงเสียงตัวหลัก

 

ด้านดีไซน์ของตัวเครื่อง มาพร้อมกับบอดี้ขอบโค้งที่มีผิวสัมผัสเงางาม โดยสำหรับรุ่น OPPO Reno5 ที่ทางทีมงานได้รับมาในวันนี้เป็นสี Fantasy Silver ที่ได้รับการเคลือบผิวสัมผัสแบบหลายชั้น ช่วยให้ตัวเครื่องสามารถสะท้อนสีสันได้มากกว่า 1,000 ส่วน OPPO Reno5 5G จะเป็นสีดำ Starry Black ที่มีความเรียบหรูพรีเมียม

 

ที่ด้านบนของทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับชุดกล้องหลังจำนวน 4 ตัว (Quad Camera) แบ่งออกเป็น

• กล้องตัวหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f/1.7, ระบบโฟกัสภาพแบบ Closed-Loop Focus Motor และมุมรับภาพ 80 องศา
• กล้อง Ultra Wide-Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f/2.2 และมุมรับภาพ 119 องศา
• กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f/2.4 และมุมรับภาพ 89 องศา
• กล้อง Mono ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f/2.4 และมุมรับภาพ 89 องศา

 

ทดสอบใช้งานในเบื้องต้น

สำหรับ OPPO Reno5 Series 5G ทั้งสองรุ่น มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย ColorsOS 11.1 เวอร์ชันใหม่แกะกล่อง ซึ่งทาง OPPO ได้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานให้ตอบสนองการใช้งานได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่างเช่น Gamer Mode หรือ Always-on Display ที่สามารถปรับแต่งได้ด้วยตนเอง

 

ด้านประสิทธิภาพการทำงาน OPPO Reno5 มาพร้อมกับชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 720G ประกบคู่การทำงานร่วมกับหน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR4x ขนาด 8GB พร้อมหน่วยความจำภายในแบบ UFS 2.0 ความจุ 128GB และแบตเตอรี่ขนาด 4310mAh ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ 50W FlashCharge

 

ขณะที่รุ่น OPPO Reno5 5G มาพร้อมกับชิปเซ็ตประมวลผลระดับรองท็อปกับรุ่น Qualcomm Snapdragon 765G ซึ่งจะทำงานควบคู่กับหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 8GB พร้อมหน่วยความจำภายในความจุ 128GB และแบตเตอรี่ 2 เซลล์ขนาดรวม 4300mAh ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ 65W SuperVOOC 2.0

 

สำหรับฟีเจอร์เกี่ยวกับกล้องถ่ายภาพที่ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่ใน OPPO Reno5 Series 5G ถือว่าน่าสนใจเลยทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น ฟีเจอร์ AI Mixed Portrait ซึ่งจะเป็นการรวบตัวแบบ และฉากหลังอยู่ในเฟรมเดียวกัน ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกของโลกที่สมาร์ทโฟนสามารถทำเอฟเฟกต์ในลักษณะนี้ได้ โดยที่ไม่ต้องนำไปปรับต่อในแอปพลิเคชันอื่นๆ หรือจะเป็น AI Highlight Video ที่ช่วยให้การถ่ายวิดีโอในสภาพแสงต่างๆ มีความสว่างคมชัด สามารถเก็บรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างครบถ้วนมากยิ่งขึ้น รวมถึง Dual-View Video ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายวิดีโอจากกล้องหน้า และกล้องหลังพร้อมกัน เพื่อตอบโจทย์เหล่า Vlogger โดยเฉพาะ

 

OPPO Reno5 Series 5G มีกำหนดการเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 มกราคม 2021 ตั้งแต่เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป โดยผู้ที่สั่งจองล่วงหน้า (Pre-order) จะได้รับของสมนาคุณสุดพิเศษ (Special Gift) ได้แก่ ลำโพงบลูทูธ และเครื่องชั่งน้ำหนักอัจฉริยะ (Smart Scale) ส่วนราคาวางจำหน่ายของ OPPO Reno5 Series 5G ในประเทศไทยจะอยู่ที่เท่าไหร่ หากทีมงานมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรีบนำมาอัปเดตให้ทุกท่านได้รับทราบโดยทันที

 

ข้อมูลเพิ่มเติม

• รีวิว OPPO Reno5 Series 5G

 

วันที่ : 25/1/2564