เทียบสเปก OnePlus 8 Pro | Samsung Galaxy S20 Ultra 5G | iPhone 11 Pro Max สามเรือธงตัวท็อป รุ่นไหนจัดเต็มที่สุด มาดูกัน

เปิดตัวทางการมาอีกรุ่นแล้วนะคะสำหรับ OnePlus 8 | 8 Pro สองเรือธงรุ่นใหม่ป้ายแดงจากทาง OnePlus ที่มาพร้อมการปรับโฉมดีไซน์ใหม่ และอัปเกรดสเปกภายในตัวเครื่องหลายด้าน

ในวันนี้ทางทีมงานจึงไม่พลาดนำ OnePlus 8 Pro รุ่นท็อปสุดมาเทียบสเปกกับเรือธงแบรนด์ใหญ่อย่าง Samsung Galaxy S20 Ultra 5G และ iPhone 11 Pro Max เพื่อเป็นแนวทางสำหรับท่านที่สนใจ ซึ่งแต่ละรุ่นจะจัดเต็มขนาดไหน ไปชมพร้อมกันเลยค่ะ

เริ่มกันที่ขนาดตัวเครื่องกันก่อนจะเห็นได้ว่า OnePlus 8 Pro มีน้ำหนักเบาที่สุด และ Samsung Galaxy S20 Ultra 5G มีขนาดใหญ่ที่สุด ซึ่งทั้งสามรุ่นรองรับคุณสมบัติป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นมาตรฐานระดับเดียวกันที่ IP68

ด้วยความที่ Samsung Galaxy S20 Ultra 5G มีตัวเครื่องขนาดใหญ่สุดในสามรุ่นนี้ จึงส่งผลให้มีหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่สุดตามไปด้วยที่ขนาด 6.9 นิ้ว กับการดีไซน์แบบไร้ขอบ เจาะรูกล้องหน้า ซึ่ง OnePlus 8 Pro ได้ปรับมาใช้ดีไซน์นี้เช่นเดียวกัน แต่มีตำแหน่งกล้องอยู่ที่มุมบนซ้าย โดยทั้งสามรุ่นมีหน้าจอเทคโนโลยี OLED เหมือนกัน ซึ่ง S20 Ultra 5G กับ OnePlus 8 Pro มีความคมชัดเท่ากันที่ระดับ QHD+ และมีค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz เท่ากัน สำหรับ iPhone 11 Pro Max มีความคมชัดระดับ FHD+ ที่แม้จะน้อยกว่าอีกสองรุ่น แต่ก็ถือว่าเพียงพอต่อการรับชมคอนเทนท์ต่างๆ บนสมาร์ทโฟน

ต่อกันที่ฮาร์ดแวร์ และประสิทธิภาพตัวเครื่อง โดยที่ทั้งสามรุ่นมาพร้อมกับชิปเซ็ตรุ่นท็อปของแต่ละค่าย ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตระดับ 7nm ได้แก่ OnePlus 8 Pro : Qualcomm Snapdragon 865, Samsung Galaxy S20 Ultra 5G : Exynos 990 และ iPhone 11 Pro Max : Apple A13 Bionic ซึ่งทาง Apple ระบุว่าถือเป็น CPU และ GPU ที่เร็วที่สุดในโลก ณ ขณะนี้

OnePlus 8 Pro และ Samsung Galaxy S20 Ultra 5G ใช้งานหน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR5 เวอร์ชันใหม่เร็วก่าแบบเดิมราว 20% กับขนาดจุใจที่ 12GB ส่วนทาง iPhone 11 Pro Max มี RAM แบบ LPDDR4 ขนาด 4GB แต่มีความจุตัวเครื่องให้เลือกมากสุดถึง 512GB และมีเพียง S20 Ultra 5G เพียงรุ่นเดียวที่รองรับการเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD

ด้านการถ่ายภาพ OnePlus 8 Pro และ S20 Ultra 5G จัดเต็มสุดด้วยกล้องหลัง 4 ตัว (Quad Camera) โดย Samsung นั้นมีกล้องหลักคมชัดสูงถึง 108 ล้านพิกเซล และยังรองรับการซูมไกลถึง 100 เท่า (100x Space Zoom) รวมถึงการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 8K ทางด้านกล้องหน้าเอง S20 Ultra 5G ก็มีความคมชัดมากสุดถึง 40 ล้านพิกเซล พร้อมรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดระดับ 4K แต่ข้อมูลทั้งหมดนี้ก็ไม่สามารถกล่าวได้ว่ารุ่นใดถ่ายรูปได้สวยที่สุด ซึ่งท่านผู้อ่านต้องลองไปทดสอบด้วยตัวเองค่ะว่าโทนสีภาพของรุ่นใดจะตรงใจท่านมากที่สุด

สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยตัวเครื่องนั้น iPhone 11 Pro Max รองรับเพียงการสแกนใบหน้าเท่านั้น ด้วยฟีเจอร์ FaceID เวอร์ชันใหม่ กับการสแกนแบบ 3 มิติ ที่สามารถจดจำรายละเอียดบนใบหน้าได้ดีกว่าแบบ 2 มิติ ส่วนอีกสองรุ่นรองรับทั้งการสแกนใบหน้าแบบ 2 มิติ และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ใต้หน้าจอ โดยที่ S20 Ultra 5G นั้นใช้เทคโนโลยี Ultrasonic ที่สามารถอ่านลายนิ้วมือได้แบบ 3 มิติ

และมีเพียง iPhone 11 Pro Max ที่ไม่รองรับเครือข่าย 5G ซึ่งคาดว่าเรือธงไอโฟนในปี 2020 นี้จะอัปเกรดมารองรับ 5G

ขณะนี้มีเพียง 2 รุ่นที่วางจำหน่ายทางการในประเทศไทย ได้แก่ Samsung Galaxy S20 Ultra 5G ราคา 39,900 บาท และ iPhone 11 Pro Max กับราคาเริ่มต้นที่ 39,900 บาทเช่นเดียวกัน ส่วน OnePlus 8 Pro เปิดราคาในต่างประเทศเริ่มต้นที่ประมาณ 29,300 บาท โดยคาดว่าจะมีการนำเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยเร็วๆ นี้ และน่าจะมีราคาที่ย่อมเยากว่า ซึ่งก็ต้องติดตามการประกาศจากทาง OnePlus ประเทศไทยอีกครั้งหนึ่งค่ะ

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com

วันที่ : 15/4/2563