รวมมือถือระดับกลาง สเปกคุ้ม รุ่นล่าสุดที่เตรียมเปิดตัวในไทยเร็วๆ นี้

เรียกได้ว่ายังคงมีข่าวเตรียมการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จากแบรนด์ดังอย่างต่อเนื่อง ในวันนี้ทางทีมงานจึงมาสรุปรายชื่อสมาร์ทโฟนระดับกลาง สเปกคุ้ม รุ่นใหม่ที่จ่อเปิดตัวในประเทศไทยเร็วๆ นี้ หลังจากผ่านการรับรองจากทาง กสทช. เรียบร้อยแล้ว เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการติดสินใจเลือกซื้อ สำหรับท่านที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ซึ่งจะมีรุ่นเด่นจากแบรนด์ใดบ้าง ไปชมพร้อมกันเลยค่ะ

Vivo

Vivo V20 SE : ราคาประมาณ 9,100 บาท

สมาร์ทโฟนรุ่นน้องของ Vivo V20 Pro 5G ที่มีจุดเด่นเป็นกล้องหน้าคมชัด 32 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องหลัง 3 ตัว (Triple Camera) ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล บนดีไซน์จอไร้ขอบทรงหยดน้ำแบบ 1080P AMOLED Halo FullView Display ขนาด 6.44 นิ้ว พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ (In-Display Fingerprint) บนตัวเครื่องบางเฉียบ 7.38 มิลลิเมตร และมีแบตเตอรี่ความจุ 4100 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W Vivo FlashCharge 2.0 รวมถึงใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 665 จับคู่กับ RAM 8GB + ROM 128GB บนระบบปฏิบัติการ Android 10 ซึ่งเปิดราคาทางการในประเทศมาเลเซียที่ RM 1,199 หรือประมาณ 9,100 บาท

Vivo Y20s : ราคาประมาณ 6,200 บาท

สมาร์ทโฟนรุ่นอัปเกรดจาก Vivo Y20 โดยมากับแบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 18W FlashCharge พร้อม RAM 6GB + ROM 128GB รันด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 460 บนการดีไซน์จอไร้ขอบทรงหยดน้ำแบบ Halo FullView Display ขนาด 6.51 นิ้ว รวมถึงกล้องหลัง 3 ตัว (Triple Camera) และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ที่ด้านข้างตัวเครื่อง (Side-Mounted Fingerprint) ซึ่งเปิดราคาทางการในประเทศกัมพูชาที่ $199 หรือประมาณ 6,200 บาท

Samsung

Samsung Galaxy A42 5G : ราคาประมาณ 13,000 บาท

สมาร์ทโฟน 5G ระดับกลางรุ่นใหม่ของทาง Samsung ที่มีจุดเด่นเป็นการดีไซน์ฝาหลังแบบ Prism ไล่เฉด และไล่ระดับเป็นชั้นอย่างชัดเจน พร้อมหน้าจอไร้ขอบแบบ Infinity-U Display ขนาดใหญ่ 6.6 นิ้ว รันด้วยชิปเซ็ตรุ่นใหม่อย่าง Qualcomm Snapdragon 750 5G มีแบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 15W Fast Charging พร้อมกล้องหลัง 4 ตัว (Quad Camera) ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ผสานกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล โดยเปิดราคาในยุโรปเริ่มที่ 359 ยูโร หรือประมาณ 13,000 บาท

OPPO

OPPO A73 : ราคาประมาณ 8,600 บาท

ในเบื้องต้นยังไม่มีข้อมูลใดๆ แต่จากชื่อรหัส CPH2095 ที่ปร่กฎบนเว็บไซต์ กสทช. ตรงกับรุ่น OPPO F17 ที่เปิดตัวในประเทศอินเดีย จึงมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นการรีแบรนด์มานั่นเอง ซึ่งมีจุดเด่นเป็นฝาหลังดีไซน์แบบหนังสังเคราะห์ พร้อมกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัว (Quad Camera) ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 30W VOOC Flash Charge 4.0 และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ โดยมีราคาเปิดตัวในอินเดียที่ 19,990 รูปี หรือประมาณ 8,600 บาท

OPPO A33 : ราคาประมาณ 4,700 บาท

ว่าที่น้องเล็กรุ่นใหม่จากตระกูล A-Series ที่มาพร้อมการดีไซน์พรีเมียมเทียบชั้นรุ่นใหญ่ ชูโรงด้วยหน้าจอ Refresh Rate ระดับสูงสุด 90Hz รันด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 460 รุ่นใหม่เหมือนกับ A53 แต่จะมี RAM + ROM ที่ 3GB+32GB พร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh และกล้องหลัง 3 ตัว (Triple Camera) กับราคาเปิดตัวที่ 2,200,000 รูเปียห์ หรือประมาณ 4,700 บาท

realme

realme X7 Pro 5G : ราคาประมาณ 10,000 บาท

มือถือ 5G ในระดับกลางรุ่นใหม่ ที่มาพร้อมชิปเซ็ตรุ่นใหม่ของค่าย MediaTek อย่าง Dimensity 1000+ รองรับ 5G แบบ Dual-Mode และมีหน้าจอ Refresh Rate ระดับสูงสุด 120Hz รวมถึงกล้องหลัง 4 ตัว (Quad Camera) ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ที่รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดระดับ 8K ผสานกล้องหน้าฝังบนจอความละเอียด 32 ล้านพิกเซล นอกจากนี้ยังมีแบตเตอรี่ความจุ 4500 mAh ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W DartCharge โดยเปิดราคาในประเทศจีนเริ่มที่ 2,199 หยวน หรือประมาณ 10,000 บาท

realme narzo 20 Pro : ราคาประมาณ 6,300 บาท

สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดจากซีรีส์ Nazro และจะเป็นรุ่นแรกของซีรีส์ที่มีการนำเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทย โดยมีกำหนดการเปิดตัวทางการในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ กับจุดเด่นที่ฝาหลังเงางาม ลวดลายตัว V และการไล่เฉดสี สำหรับการทำงานรันด้วยชิปเซ็ต MediaTek Helio G95 สำหรับเน้นเล่นเกมโดยเฉพาะ พร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4500 mAh ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W SuperDart Charge รวมถึงหน้าจอที่มี Refresh Rate ระดับสูงสุด 90Hz และมีกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัว (Quad Camera) ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ซึ่งมีราคาเปิดตัวในประเทศอินเดียเริ่มที่ 14,999 รูปี หรือประมาณ 6,300 บาท

HUAWEI

HUAWEI Y7a : ราคาประมาณ 6,000 บาท

สมาร์ทโฟนรุ่นเล็กสเปกครบจากตระกูล Y Series ที่เตรียมเปิดตัวในประเทศไทยวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ โดยมากับการดีไซน์ระดับพรีเมียม ด้วยหน้าจอไร้ขอบเจาะรูกล้องหน้าที่ตรงกลาง ขนาดใหญ่ 6.67 นิ้ว พร้อมแบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 22.5W HUAWEI SuperCharge และมีกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัว (AI Quad Camera) ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รวมถึงใช้ชิปเซ็ต Kirin 710A บนระบบปฏิบัติการ Android 10 ซึ่งมีราคาเปิดตัวที่ 799 ริงกิตมาเลเซีย หรือประมาณ 6,000 บาท

HUAWEI Y9a : ราคาประมาณ 9,200 บาท

สมาร์ทโฟนระดับกลาง ดีไซน์เทียบชั้นเรือธงด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 6.63 นิ้วในดีไซน์ HUAWEI Ultra FullView Display แบบไร้ขอบ ไร้รอยบาก ไร้ติ่ง และไม่มีรูกล้องหน้า พร้อมซ่อนกล้องหน้าแบบ Pop-Up ไว้ในตัวเครื่อง ส่วนที่ด้านหลังลงโค้งแบบ 3D Arc Design ที่มีความเงางาม และติดตั้งกล้องหลัง 4 ตัว (Quad Camera) คมชัดถึง 64 ล้านพิกเซล โดยมีแบตเตอรี่ความจุ 4200 mAh ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 40W HUAWEI SuperCharge พร้อมรันด้วยชิปเซ็ต MediaTek Helio G80 จับคู่กับ RAM 8GB + ROM 128GB บนระบบปฏิบัติการ EMUI 10.1 เวอร์ชันใหม่ กับราคา 1,099 ริยัลซาอุดีอาระเบีย หรือประมาณ 9,200 บาท

ทั้งหมดนี้เป็นรายชื่อสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ผ่านการรับรองจากทาง กสทช. เรียบร้อยแล้วทั้งสิ้น (อัปเดต ณ วันที่ 3 พฤศจิกายน 2563) ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีฟีเจอร์โดดเด่นแตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละท่านชอบรุ่นใดมากกว่ากัน และในบางรุ่นก็มีการประกาศกำหนดการเปิดตัวในประเทศไทยออกมาให้ได้ทรากบันแล้ว ส่วนในรุ่นที่เหลือ ก็ต้องคอยติดตามกันต่อไป คาดว่าจะมีการอัปเดตข้อมูลทางการในเร็วๆ นี้ค่ะ

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com

วันที่ : 3/11/2563