Samsung Galaxy S10 ยังน่าซื้ออยู่หรือไม่ในปี 2020? กับราคาที่ลดลงจากเดิมกว่า 10,000 บาท!

ในช่วงปลายปีแบบนี้ หลายท่านอาจจะให้ความสนใจกับสมาร์ทโฟนอดีตเรือธงกันเป็นพิเศษ เนื่องจากใกล้เข้าสู่ไทม์ไลน์การเปิดตัวมือถือเรือธงรุ่นใหม่ ทำให้อดีตเรือธงมีราคาวางจำหน่ายที่ถูกลงตามไปด้วย ซึ่งบางรุ่นก็มีราคาขายที่ถูกกว่าตอนเปิดตัวในหลักหมื่นเลยทีเดียว และหนึ่งในรุ่นที่หลายคนให้ความสนใจก็คือ Samsung Galaxy S10 ที่เคยเปิดตัวไปเมื่อปี 2019 มาดูกันดีกว่าว่าในปี 2020 Galaxy S10 ยังคงมีความน่าซื้ออยู่หรือไม่? กับจุดเด่นที่ทำให้ Galaxy S10 ยังคงน่าสนใจในปี 2020 ครับ

ราคาถูกลงกว่าหมื่นบาท!

Samsung Galaxy S10 มือ 1 ราคาขายตามช่องทางออนไลน์ในปัจจุบันจะอยู่ที่ราวๆ 14,000 - 16,000 บาท (ขึ้นอยู่กับตัวแทนจำหน่าย และระยะเวลาการรับประกัน) ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาเปิดตัวของ Galaxy S10 ในบ้านเราที่ 26,900 บาทแล้ว ก็หมายความว่าในตอนนี้ Galaxy S10 ราคาถูกลงหลัก 10,000 บาทเลยทีเดียว แต่สิ่งที่ต้องพิจารณาก็คือ Galaxy S10 ที่วางจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ในตอนนี้ ส่วนมากจะไม่มีประกันศูนย์ Samsung แล้ว ดังนั้นผู้ใช้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าว อาจจะต้องพิจารณาถึงในเรื่องของบริการหลังการขายของแต่ละตัวแทนจำหน่ายด้วย

สเปกที่ยังคงแรงอยู่

Galaxy S10 รุ่นที่วางจำหน่ายในประเทศไทย มาพร้อมกับชิปเซ็ต Exynos 9820 ที่ผลิตด้วยสถาปัตยกรรมระดับ 8 นาโนเมตร ประกบคู่กับหน่วยความจำ RAM ขนาด 8GB และหน่วยความจำภายในแบบ UFS 2.1 ความจุ 128GB ซึ่งในปัจจุบันถือว่า สเปกที่ให้มากับ Galaxy S10 ยังคงเพียงพอต่อการใช้งานรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น เล่นโซเชียลมีเดีย, ดู Facebook, ตอบ Line หรือเลื่อนฟีดบน Instagram ส่วนการเล่นเกมก็ยังสามารถปรับกราฟิกระดับสูงสุดในเกมใหม่ๆ อย่าง Dragon Raja และเล่นได้อย่างลื่นไหลได้เช่นเดียวกัน แต่จุดที่ต้องพิจารณาของ Galaxy S10 ก็คือแบตเตอรี่ที่ให้มาค่อนข้างน้อยที่ 3400mAh ทำให้อาจใช้งานได้ไม่เต็มวันสำหรับที่ใช้งานสมาร์ทโฟนอย่างหนักหน่วง หรือเล่นเกมระหว่างวัน อาจจำเป็นต้องพกพาวเวอร์แบงค์เพื่อเติมแบตเตอรี่ระหว่างวัน แต่ถ้าเล่นโซเชียลมีเดียอย่างเดียว และไม่ได้ใช้งานมือถือมากนัก แบตเตอรี่ของ Galaxy S10 ก็ถือว่าพอที่จะใช้งานได้พ้นวัน

กล้องถ่ายภาพคมชัด มีเลนส์ให้ใช้ครบทุกระยะ

Galaxy S10 มาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัวระดับ Pro-Grade โดยมาพร้อมกับกล้องตัวหลักเลนส์ Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, กล้อง Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล สำหรับซูมภาพ และกล้อง Ultra Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล สำหรับถ่ายภาพในมุมกว้าง 123 องศา ซึ่งเลนส์ทั้งสามตัวที่ให้มา ก็ถือว่าครอบคลุมการถ่ายภาพในปัจจุบัน อีกทั้งยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ Super Steady ที่ช่วยให้การถ่ายภาพวิดีโอมีความนิ่งหมือนกับกล้อง Action Camera ส่วนกล้องหน้าจัดมาให้ที่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ Dual Pixel ที่ช่วยดฟกัสภาพได้อย่างฉับไวแม้จะเป็นในที่แสงน้อย ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกันกับกล้องหลังของ Samsung อีกทั้งยังกล้องหน้า Galaxy S10 ยังรองรับการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้าความละเอียดระดับ 4K เป็นรุ่นแรกของโลกอีกด้วย ซึ่งตอบโจทย์เหล่า Vlogger ได้เป็นอย่างดี

ส่วนฟีเจอร์ด้านอื่นๆ ด้านการถ่ายภาพของ Galaxy S10 ก็ถือว่ายังคงทัดเทียมกับ Galaxy รุ่นใหม่อย่าง Galaxy S20 Series ไม่ว่าจะเป็น Night Mode สำหรับถ่ายภาพกลางคืน, Scene Optimizer สำหรับช่วยปรับแต่งภาพถ่ายให้มีความสวยงาม ผ่านการประมวลผลด้วย AI รวมถึง Best Shot Suggestion ซึ่งจะเป็นการแนะนำผู้ใช้ด้านการจัดองค์ประกอบภาพให้ออกมามีความสวยงามเหมาะสม ด้วยการนำ AI และ Machine Learning ที่ผ่านการเรียนรู้ภาพถ่ายในรูปแบบต่างๆ มาแล้วกว่า 100,000,000 รูป

กันน้ำ IP68, ชาร์จไร้สาย และยังมีช่องหูฟัง 3.5 มม.!

ช่องหูฟัง 3.5 มม. เป็นฟีเจอร์ที่ถูกตัดออกไปในรุ่น Galaxy S20 Series แต่ในรุ่น Galaxy S10 ยังคงมีช่องหูฟังให้ใช้งานอยู่ ซึ่งถือว่าตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการใช้งานหูฟัง 3.5 มม. แบบไม่ต้องใช้ตัวแปลง นอกจากนี้ ยัง Galaxy S10 ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่เรือธงหลายรุ่นปัจจุบันบางรุ่นยังไม่มี ไม่ว่าจะเป็น ระบบการชาร์จแบบไร้สาย ที่สามารถแบ่งแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ รวมถึงบอดี้กระจกผสานเฟรมโลหะซีรีส์ 7000 สุดแกร่ง ที่มีคุณสสมบัติกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 สามารถกันน้ำได้ลึกสุด 1.5 เมตร เป็นเวลานานสูงสุด 30 นาที

Galaxy S10 vs S10 Lite เลือกรุ่นไหนดี?

อ่านมาถึงตรงนี้หลายท่านน่าจะลังเลระหว่าง Galaxy S10 และเรือธงรุ่นเล็กอย่าง Galaxy S10 Lite เนื่องจากราคาวางจำหน่ายของทั้งสองรุ่นถือว่ามีความใกล้เคียงกันเป็นอย่างมาก ทีมงานจึงขอสรุปข้อแตกต่างแบบคร่าวๆ ของ Galaxy S10 และ S10 Lite เอาไว้ดังนี้ครับ

สิ่งที่ Galaxy S10 และ S10 Lite มีเหมือนกัน

หน้าจอพื้นฐานแบบ AMOLED (ในรุ่น S10 Lite หน้าจอจะเป็นเวอร์ชัน Plus ที่ถูกออกแบบมาให้มีความบางกว่าเดิม ส่วนในรุ่น Galaxy S10 เป็นจอแบบ Dynamic AMOLED)
รองรับการแสดงผลแบบ HDR10+
สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
กล้องหลัง 3 ตัว
กล้องหน้าตัวเดียว
รองรับ microSD Card ความจุสูงสุด 256GB

สิ่งที่ Galaxy S10 อาจจะดูดีกว่า Galaxy S10 Lite

หน้าจอความละเอียด 2K+
รองรับชาร์จไร้สาย
รองรับ Wireless Power Share
บอดี้กระจก
คุณสมบัติกันน้ำระดับ IP68
เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ Ultrasonic สามารถอ่านค่าลายนิ้วมือได้แบบ 3 มิติ
กล้องหลังมีเลนส์ครบทุกระยะ ทั้ง ระยะปกติ, ระยะซูม และระยะกว้าง ต่างจาก S10 Lite ที่ไม่มีกล้องเลนส์ซูม

สิ่งที่ Galaxy S10 Lite อาจจะดูดีกว่า Galaxy S10