พรีวิวแรก Huawei Mate30 | Mate30 Pro มีอะไรใหม่ พร้อมสรุปทุกการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ล่าสุด มีอะไรน่าจับตามอง ส่งตรงจากเยอรมนี
เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะสำหรับ HUAWEI Mate30 Series สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดจากทาง Huawei ที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนดีไซน์แบบใหม่หมดจด และอัปเกรดฟีเจอร์ภายในหลายด้าน โดยเฉพาะการถ่ายภาพที่เรียกได้ว่าจัดเต็มเช่นเคย และนอกจาก HUAWEI Mate30 Series ทั้งสองรุ่นอย่าง Mate 30 และ Mate 30 Pro แล้ว ก็ยังมีการเปิดตัวรุ่นไฮเอนด์ขั้นสุดอย่าง Porsche Design HUAWEI Mate30 RS รวมถึงอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
ทางทีมงานได้ไปร่วมงานเปิดตัวจึงไม่พลาดที่จะเก็บภาพตัวเครื่องจริงของ HUAWEI Mate30 Series พร้อมสรุปทุกข้อมูลของผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวไปทั้งหมดในงาน Rethink Possibilities มาให้ได้ชมกัน ซึ่งตัวเครื่องจริงของ Mate30 Series จะสวยพรีเมียมขนาดไหน และมีผลิตภัณฑ์ใดที่น่าสนใจบ้างนั้น ไปชมกันเลยค่ะ
พรีวิวเบื้องต้น HUAWEI Mate30 Series
เริ่มกันที่ HUAWEI Mate30 ที่มาในดีไซน์ Rigid OLED FullView Display ขนาด 6.62 นิ้ว ในอัตราส่วน 19.5:9 พร้อมความคมชัดระดับ Full HD+ (1080x2340 พิกเซล) รองรับมาตรฐานสีแบบ DCI-P3 HDR บนตัวเครื่องขนาด 160.8x76.1x8.4 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 196 กรัม
ที่ด้านบนมีรอยบาก (Notch) สำหรับกล้องหน้าคมชัด 24 ล้านพิกเซล โดยมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0 และรองรับเซ็นเซอร์ต่างๆ
ที่ด้านบนประกอบด้วยเซ็นเซอร์อินฟาเรด และไมโครโฟนตัวที่สอง
ที่ด้านล่างมีช่องเชื่อมต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟนตัวหลักสำหรับสนทนา, พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C และลำโพงเสียงตัวหลัก
ที่ด้านขวาตัวเครื่องมีปุ่ม Power สำหรับล็อกหน้าจอ หรือ เปิด-ปิด เครื่อง พร้อมกับปุ่มปรับระดับเสียง
ที่ด้านซ้ายมีช่องสำหรับใส่ซิมการ์ด
ด้านหลังตัวเครื่องครอบทับด้วยกระจก พร้อมตัวเลือกสีใหม่ และปรับดีไซน์กล้องหลังแบบใหม่ในชื่อ Halo Ring Design
HUAWEI Mate30 มีกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัว (Triple Camera) จากทาง Leica เช่นเดิม โดยแบ่งออกเป็นกล้องตัวหลัก SuperSensing Wide ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล (F/1.8 : ทางยาวโฟกัส 27mm), กล้องตัวที่สองเลนส์ Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล (F/2.2 : ทางยาวโฟกัส 17mm), กล้องตัวที่สามเลนส์ Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (F/2.4 : ทางยาวโฟกัส 80mm) พร้อมรองรับ OIS และมี Laser Focus อยู่ที่รูกล้องด้านล่างซ้าย
ต่อกันที่ HUAWEI Mate30 Pro มาในดีไซน์ใหม่ด้วยหน้าจอขอบโค้งลงสุดเกือบถึงขอบด้านข้างตัวเครื่องทำมุม 88 องศาแบบ Flex OLED HUAWEI Horizon Display ขนาด 6.53 นิ้ว ในอัตราส่วน 18.4:9 พร้อมความคมชัดระดับ Full HD+ (1176x2400 พิกเซล) รองรับมาตรฐานสีแบบ DCI-P3 HDR บนตัวเครื่องขนาด 158.1x73.1x8.8 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 198 กรัม
ด้านบนหน้าจอมีรอยบาก (Notch) ที่ขนาดใหญ่กว่า Mate30 แต่เล็กลงจากรุ่นก่อนอย่าง Mate 20 Pro โดยมีกล้องหน้าคมชัด 32 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0 และฝังเซ็นเซอร์ Gesture Sensor ในการตรวจจับท่าทาง, 3D Depth Camera และ เซ็นเซอร์ Ambient Light กับ Proximity
ที่ด้านบนประกอบด้วยไมโครโฟนตัวที่สอง และเซ็นเซอร์อินฟาเรด
ที่ด้านล่างมีช่องสำหรับใส่ซิมการ์ด, ไมโครโฟนตัวหบักสำหรับสนทนา, พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C และลำโพงเสียงตัวหลัก
ที่ด้านขวามีเพียงปุ่ม Power สำหรับล็อกหน้าจอ หรือ เปิด-ปิด เครื่อง
ที่ด้านซ้ายไม่มีปุ่มสั่งการใดๆ
ด้านหลังตัวเครื่องครอบทับด้วยกระจก พร้อมตัวเลือกสีใหม่ และปรับดีไซน์กล้องหลังแบบใหม่ในชื่อ Halo Ring Design เช่นเดียวกัน
HUAWEI Mate30 Pro มาพร้อมกับกล้องหลังจากทาง Leica จัดเต็มกว่าที่ 4 ตัว (Quad Camera) แบ่งออกเป็นกล้องตัวหลัก SuperSensing Wide ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล (F/1.6 : ทางยาวโฟกัส 27mm) พร้อมระบบ OIS, กล้องตัวที่สองเลนส์ Ultra-Wide Cine ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล (F/1.8 : ทางยาวโฟกัส 18mm), กล้องตัวที่สามเลนส์ Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (F/2.4 : ทางยาวโฟกัส 80mm) พร้อมรองรับ OIS และกล้องตัวที่สี่ 3D Depth Sensing
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจบน HUAWEI Mate30 Series
ดีไซน์ตัวเครื่องใหม่หมดจด
HUAWEI Mate30 Pro มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบใหม่ที่มีชื่อว่า HUAWEI Horizon Display โดยมาพร้อมกับจอขอบโค้งทำมุมถึง 88 องศา ซึ่งถือว่าโค้งลงเฟรมมากกว่าสมาร์ทโฟนเรือธงแบรนด์อื่นๆ บนท้องตลาด โดยในรุ่น HUAWEI Mate30 Pro มาพร้อมกับจอ 6.53 นิ้ว แบบ Flex OLED Display ตัดแสงสีฟ้า อัตราส่วนในการแสดงผลแบบ 18.4:9 ขณะที่ HUAWEI Mate30 มาพร้อมกับหน้าจอแบบ Rigid OLED ขนาด 6.62 นิ้ว ซึ่งแม้ว่าหน้าจอแสดงผลของทั้งสองรุ่นจะมีขนาดใหญ่ แต่ขนาดของตัวเครื่องถือว่าเล็กกว่าแบรนด์คู่แข่งอย่าง iPhone 11 Pro Max ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาดเล็กกว่าที่ 6.46 นิ้ว นอกจากนี้ ขอบที่ด้านบน และด้านล่างของ HUAWEI Mate30 และ Mate30 Pro ยังมีความบางเฉียบเมื่อเทียบกับ iPhone 11 Pro Max อีกด้วย
ส่วนที่ด้านหลังก็ปรับดีไซน์ใหม่ โดยการจัดเรียงรูปแบบกล้องในแท่นทรงกลมแบบ Halo Ring Design ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากกล้องถ่ายภาพ รวมทั้งยังมาพร้อมกับการครอบทับฝาหลังด้วยกระจกขอบโค้งแบบ 3D Glass ผสานโครงแบบสแตนเลส ช่วยให้หยิบจับได้อย่างถนัดมือ และยังปกป้องตัวเครื่องได้อย่างดีเยี่ยม
นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกสีใหม่อย่าง Space Silver และ Cosmic Purple รวมถึงเวอร์ชันฝาหลังแบบหนังสังเคราะห์ Vegan Leather Edition โดยผลิตจากผ้าสังเคราะห์ และไม่ใช้ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบดีไซน์แบบหนัง พร้อมให้ความเป็นมิตรกับสัตว์โลกนั่นเอง
ภาพตัวเครื่อง HUAWEI Mate30 แบบ Vegan Leather Edition
กล้องหลัง Leica 4 ตัว (Leica Quad Camera) บน Mate30 Pro มีอะไรใหม่ ดีขึ้นอย่างไร
สำหรับ HUAWEI Mate30 Pro จัดเต็มขั้นสุดด้วยกล้องจากทาง Leica ทั้งหมด 4 ตัว (Quad Camera) ซึ่งประกอบไปด้วย
กล้องตัวหลัก SuperSensing Wide ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล (F/1.6 : ทางยาวโฟกัส 27mm) พร้อมระบบ OIS
กล้องตัวที่สองเลนส์ Ultra-Wide Cine ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล (F/1.8 : ทางยาวโฟกัส 18mm)
กล้องตัวที่สามเลนส์ Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (F/2.4 : ทางยาวโฟกัส 80mm) พร้อมรองรับ OIS
กล้องตัวที่สี่ 3D Depth Sensing สำหรับตรวจจับระยะชัดตื้น รองรับการดันค่า ISO สูงสุดที่ 409600
โดยกล้องตัวหลักของ HUAWEI Mate30 Pro จะเรียงเซ็นเซอร์แบบ RGGB พร้อมขนาดเซ็นเซอร์ที่ 1/1.54 นิ้ว นอกจากนี้ ในรุ่น HUAWEI Mate30 Pro ยังรองรับการถ่ายภาพแบบ Night Mode ผ่านกล้อง Ultra Wide เพื่อเก็บภาพความประทับใจตอนกลางคืนแบบมุมกว้างอีกด้วย
นอกจากนี้ยังถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกในวงการที่มาพร้อมกล้อง Cine Camera คมชัด 40 ล้านพิกเซล สำหรับบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 4K UHD ที่ระดับ 60fps พร้อมฟังก์ชัน Ultra Slow-motion ที่ระดับ 7680fps, โหมด Time-Lapse แบบ 4K HDR+ และ Real-Time Bokeh รวมถึงรองรับระบบกันสั่นแบบ Dual OIS + AIS
Kirin 990 ชิปเซ็ตตัวท็อปใหม่ล่าสุด ที่นำมาใช้บน Mate30 | Mate30 Pro เป็นรุ่นแรกของโลก
ด้านประสิทธิภาพของ HUAWEI Mate30 และ Mate30 Pro มาพร้อมกับขุมพลัง Kirin 990 รุ่นใหม่ล่าสุดบนเทคโนโลยีการผลิตระดับ 7nm+ ที่ถือว่ามีประสิทธิภาพด้านการประมวลผลด้าน CPU แรงขึ้นกว่ารุ่นก่อนอย่าง Kirin 980 ราว 23% รวมทั้งยังมาพร้มอกับ GPU Turbo เวอร์ชันใหม่ที่ช่วยรีดประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิมถึง 60% ด้วยกัน พร้อมมอบประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลกว่าเดิมประมาณ 29%
แบตเตอรี่จุใจ พร้อมชาร์จไวกว่าเดิม
สำหรับ HUAWEI Mate30 และ Mate30 Pro มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้นที่ความจุ 4200 mAh และ 4500 mAh ตามลำดับ ซึ่งรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ 40W HUAWEI SuperCharge และเทคโนโลยีชาร์จไร้สายความเร็วสูงแบบ 27W Wireless Charging รวมถึงฟังก์ชัน Reverse Charging ชาร์จให้กับอุปกรณ์อื่นเร็วขึ้น 3 เท่า
ซึ่งทาง Huawe ระบุว่า HUAWEI Mate30 5G และ Mate30 Pro 5G สามารถใช้งานบนเครือข่าย 5G ได้ยาวนานถึง 8.2 ชั่วโมง และ 9 ชั่วโมงตามลำดับ
ระบบเครือข่าย และเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ
HUAWEI Mate30 และ Mate30 Pro รองรับความสามารถในการเชื่อมต่อเครือข่าย 5G โดยมีเส้นเสาสัญญาณรับเครือข่าย 5G ถึง 14 เส้นเป็นรุ่นแรกของโลก (จากทั้งหมด 21 เส้น) ส่งผลให้ HUAWEI Mate30 Pro 5G เป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับคลื่น 5G ที่ครอบคลุมมากที่สุด ณ ตอนนี้
นอกจากนี้ยังรองรับเครือข่าย 5G ได้ทั้งสองซิมการ์ดเป็นรุ่นแรกของโลก แต่สามารถแสตนด์บายบนเครือข่าย 5G ได้ครั้งละ 1 ซิมการ์ด
และมีระบบระบายความร้อนแบบ Graphene Flim Cooling ที่ช่วยให้การใช้งาน 5G เป็นไปได้อย่างราบลื่น โดยที่ตัวเครื่องไม่ร้อนจนเกินไป ซึ่งสามารถลดอุณหภูมิตัวเครื่องขณะใช้งาน 5G ได้สูงถึง 3.9 องศาเซลเซียส
ฟีเจอร์เด่นอื่นๆ ที่น่าสนใจของ HUAWEI Mate30 Series
HUAWEI Mate30 Series มาพร้อมระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุดอย่าง EMUI 10 กับฟีเจอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น New Always-on Display โฉมใหม่
ฟีเจอร์ Smart Gesture Control ในการสั่งการด้วยท่าทาง โดยไม่ต้องสัมผัสตัวเครื่อง
ฟีเจอร์ AI Auto-Rotate ในการตรวจการมองหน้าจอ แล้วหมุนหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ จึงช่วยสามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหล ไม่ติดขัด และไม่ต้องคอยกด เปิด-ปิด การหมุนหน้าจอเอง
และรองรับการใช้งานร่วมกับปากกา M-Pen ที่มีคุณสมบัติรองรับแรงกด 4,096 ระดับ
HUAWEI Mate30 Series ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติการป้องกันน้ำ และป้องกันฝุ่นเช่นเคย โดยรุ่น Mate30 Pro รองรับมาตรฐาน IP68 ส่วน Mate30 รองรับที่ระดับ IP53
สำหรับรุ่น Mate30 Pro ที่มาในดีไซน์ไร้ปุ่มปรับระดับเสียง พร้อมฟังก์ชัน Side-Touch Interaction ที่สามารถปรับระดับเสียงได้โดยการแตะที่ด้านข้างตัวเครื่องก่อน 2 ครั้ง แล้วรูดมือขึ้นด้านบนเพื่อเพิ่มเสียง หรือรูดลงด้านล่างเพื่อลดเสียง
รวมถึงเทคโนโลยี HUAWEI Acoustic Display ในการเปล่งเสียงออกจากหน้าจอ
ราคา และการวางจำหน่าย HUAWEI Mate30 | Mate30 Pro
HUAWEI Mate30 เปิดราคาในรุ่น 8GB+128GB ที่ 799 ยูโร (ประมาณ 27,000 บาท) ส่วน Mate30 Pro รุ่น 8GB+256GB ราคา 1,099 ยูโร (ประมาณ 37,100 บาท) และ HUAWEI Mate30 Pro 5G รุ่น 8GB+256GB มีราคา 1,199 ยูโร (ประมาณ 40,500 บาท) ซึ่งยังไม่เปิดเผยกำหนดการวางจำหน่ายออกมาแต่อย่างใด
พรีวิว Porsche Design HUAWEI Mate30 RS พรีเมียมกว่า Mate30 Pro อย่างไร
และก็มาตามนัดสำหรับรุ่นไฮเอนด์อย่าง Porsche Design HUAWEI Mate30 RS ที่มากับการดีไซน์โฉบเฉี่ยวแบบหนังสีดำ และแดง ที่มากับชิปเซ็ต Kirin 990 เช่นเดียวกัน พร้อมรองรับเครือข่าย 5G มีแบตเตอรี่ไซส์ใหญ่ 4500 mAh และเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 40W HUAWEI SuperCharge โดยมี RAM ขนาด 12GB และ ROM ขนาด 512GB ที่จัดเต็มกว่านั่นเอง
Porsche Design HUAWEI Mate30 RS มาในดีไซน์ใหม่ด้วยหน้าจอขอบโค้งลงสุดเกือบถึงขอบด้านข้างตัวเครื่องทำมุม 88 องศาแบบเดียวกับ Mate30 Pro ในชื่อ Flex OLED HUAWEI Horizon Display ขนาด 6.53 นิ้ว ในอัตราส่วน 18.4:9 พร้อมความคมชัดระดับ Full HD+ (1176x2400 พิกเซล) รองรับมาตรฐานสีแบบ DCI-P3 HDR บนตัวเครื่องขนาด 158.1x73.1x9.3 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 198 กรัม
ด้านบนหน้าจอมีรอยบาก (Notch) ติดตั้งกล้องหน้าคมชัด 32 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0 และฝังเซ็นเซอร์ Gesture Sensor ในการตรวจจับท่าทาง, 3D Depth Camera และ เซ็นเซอร์ Ambient Light กับ Proximity
ที่ด้านขวามีเพียงปุ่ม Power สำหรับล็อกหน้าจอ หรือ เปิด-ปิด เครื่อง พร้อมแต้มสีแดงให้สังเกตเห็นได้ง่ายขึ้น
ด้านหลังตัวเครื่องเป็นแบบหนังระดับพรีเมียม ให้ความสัมผัสนุ่มมือ จับถือกระชับ และปรับดีไซน์กล้องหลังแบบใหม่เรียงกันในลักษณะสี่เหลี่ยม และมีแถบสีดำคาดยาวลงมาตามความยาวตัวเครื่อง โดยมัตัวเลือกสีดำล้วน และสีดำ-แดง
Porsche Design HUAWEI Mate30 RS มาพร้อมกับกล้องหลังจากทาง Leica ทั้งหมด 4 ตัว (Quad Camera) แบ่งออกเป็นกล้องตัวหลัก SuperSensing Wide ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล (F/1.6 : ทางยาวโฟกัส 27mm) พร้อมระบบ OIS, กล้องตัวที่สองเลนส์ Ultra-Wide Cine ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล (F/1.8 : ทางยาวโฟกัส 18mm), กล้องตัวที่สามเลนส์ Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (F/2.4 : ทางยาวโฟกัส 80mm) พร้อมรองรับ OIS และกล้องตัวที่สี่ 3D Depth Sensing
ราคา และการวางจำหน่าย Porsche Design HUAWEI Mate30 RS
สำหรับ Porsche Design HUAWEI Mate30 RS (12GB+512GB) มีราคา 2,095 ยูโร (ประมาณ 70,800 บาท) และยังไม่มีการเปิดเผยกำหนดการวางจำหน่ายออกมาแต่อย่างใด
สรุปผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวใหม่ นอกจาก Mate30 Series แล้ว มีอะไรบ้าง
นอกจาก HUAWEI Mate30 Series แล้ว ทาง Huawei ยังได้เปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นใหม่อย่าง HUAWEI WATCH GT 2 ที่มาในดีไซน์ระดับพรีเมียมครอบทับด้วยกระจกขอบโค้งแบบ 3D Glass พร้อมหน้าจอ HD OLED Display ขนาด 1.39 นิ้ว รองรับฟังก์ชัน Always-on Display และมีสายให้เลือกสวมใส่หลากหลายสไตล์
HUAWEI WATCH GT 2 รันด้วยชิปเซ็ต Kirin A1 ชิปเซ็ตสำหรับนาฬิกาที่มีหน่วยประมวลผล และ Bluetooth ในตัวรุ่นแรกของโลก
รองรับไมโครโฟน และลำโพงในตัว จึงสามารถรับโทรศัพท์ และพูดคุยผ่านตัว HUAWEI WATCH GT 2 ได้ทันที (ในระยะ 150 เมตรของสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อ) รวมถึงควบคุมการเล่นเพลงได้ และเก็บเพลงได้ถึง 500 เพลง
HUAWEI WATCH GT 2 มาพร้อมแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 14 วัน โดยใช้งานในโหมด GPS ได้นาน 30 ชั่วโมง, เล่นเพลงติดต่อกันนาน 24 ชั่วโมง และคุยโทรศัพท์ได้นาน 10 ชั่วโมง
HUAWEI WATCH GT 2 ยังรองรับรูปแบบการออกกำลังกายกว่า 15 ชนิด และยังมีคุณสมบัติการป้องกันน้ำ ที่สามารถใช้งานได้ในน้ำลึกไม่เกิน 50 เมตร จึงสามารถบันทึกข้อมูลการออกกำลังกายต่างๆ รวมถึงการว่ายน้ำได้แบบสบายๆ
HUAWEI WATCH GT 2 เปิดราคาที่ 229 ยูโร (ประมาณ 7,700 บาท) สำหรับขนาด 42mm และราคา 249 ยูโร (ประมาณ 8,400 บาท) สำหรับขนาด 46mm โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนตุลาคมนี้
ต่อมากับการเปิดตัวอุปกรณ์เสริมรุ่นอัปเกรดใหม่อย่าง HUAWEI FreeBuds 3 ที่ถือเป็นหูฟังไร้สายรุ่นแรกของโลกที่มีระบบตัดเสียงรบกวนจากภายนอก พร้อม Ultra-Low Audio Latency และรองรับการชาร์จแบบเร็ว ซึ่งเปิดราคาที่ 179 ยูโร หรือประมาณ 6,000 บาท โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนตุลาคมนี้
มาถึงผลิตภัณฑ์สุดท้ายที่เปิดตัว ก็คือ HUAWEI Vision สมาร์ททีวีบนดีไซน์ระดับพรีเมียมที่มีความบาง รองรับการแสดงผลระดับ 4K Quantum Dot Screen และรองรับเทคโนโลยี AI รวมถึงกล้อง Pop-Up ฟีเจอร์ AI-Eye สำหรับตอบสนองกับผู้ใช้ หรือการ Video Call พร้อมระบบเสียงรอบทิศทาง Professional 5.1 sound effect และรันอยู่บนระบบปฏิบัติการ HarmonyOS ที่ทาง Huawei พัฒนาขึ้นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในงาน Rethink Possibilities ของทาง Huawei เรียกได้ว่าจัดเต็มเหมือนเช่นเคย ทั้งสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ที่ล้ำหน้ามากขึ้น รวมถึงอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ที่น่าสนใจ และก็ต้องมาติดตามกันต่อไปนะคะว่าจะมีผลิตภัณฑ์ตัวใดเข้ามาทำตลาดในบ้านเรากันบ้าง หากมีข้อมูลเพิ่มเติมทางทีมงานจะรีบมาอัปเดตให้ได้ทราบกันในทันที
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 20/9/2562
