รู้จัก HarmonyOS ระบบปฏิบัติการแห่งอนาคต ที่ Huawei ยืนยันว่าไม่ได้ก็อป Android แน่นอน
หลายคนน่าจะเคยได้ยินชื่อของ HarmonyOS มาบ้างแล้วตั้งแต่ช่วงที่ทางการสหรัฐอเมริกาใช้มาตรการคว่ำบาตรทางการค้ากับ Huawei ในฐานะระบบปฏิบัติการที่จะเข้ามาแทนที่ Android ในกรณีที่ Huawei ไม่สามารถใช้งานระบบ Android ต่อไปได้ จนเมื่อเร็วๆ นี้ Huawei ได้เปิดตัว HarmonyOS 2.0 beta สำหรับสมาร์ทโฟน และได้ปล่อยให้นักพัฒนาได้ทดลองใช้งานกัน แถม Richard Yu หนึ่งในผู้บริหารของ Huawei ยังประกาศว่า HarmonyOS ของเขานั้น ไม่เหมือนกับ Android หรือ iOS แน่นอน ทำให้ HarmonyOS กลายเป็นหัวข้อที่ถูกยกขึ้นมาพูดคุยกันอีกครั้งในวงการ อย่างไรก็ดี หลายท่านอาจจะยังไม่รู้จักระบบปฏิบัติการ HarmonyOS และสงสัยว่าแตกต่างจาก Android หรือ iOS อย่างไร ดังนั้นในวันนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ HarmonyOS กันครับ
HarmonyOS คืออะไร ทำไมถึงไม่เหมือน Android?
จริงๆ แล้ว HarmonyOS ไม่ใช่ของใหม่ แต่ Huawei ได้ซุ่มพัฒนา HarmonyOS มาตั้งแต่ปี 2012 แล้ว แรกเริ่มเดิมที ระบบปฏิบัติการนี้มีชื่อว่า HongmengOS และออกแบบมาสำหรับอุปกรณ์ IoT เป็นหลัก แต่การถูกกีดกันทางการค้าจากทางการสหรัฐฯ เมื่อปี 2019 ทำให้ Huawei หันมาพัฒนา HarmonyOS อย่างจริงจัง เพื่อนำมาใช้แทนระบบปฏิบัติการ Android บนสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์อื่นๆ แบบครบวงจร
HarmonyOS เป็นระบบปฏิบัติการแบบ Open Source ที่นักพัฒนาทุกคนสามารถนำไปพัฒนาต่อไปอย่างอิสระ เช่นเดียวกับ Android OS แต่มีพื้นฐานการทำงานที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดย HarmonyOS ทำงานบนพื้นฐานการจัดการระบบแบบ Microkernel ที่มีการแบ่งการทำงานของ system service เป็นส่วนๆ และแยกตัว Mircrokernel ซึ่งเป็นหัวใจหลักของระบบไว้ต่างหาก เมื่อมีการเจาะระบบเข้ามา ก็จะเข้ามาควบคุมได้แค่ service ใด service หนึ่งเท่านั้น โดย service อื่นๆ ยังคงทำงานต่อได้ตามปกติ ต่างจาก Android OS ที่ใช้ระบบ Mono kernel ซึ่งรวมทุก service เอาไว้ด้วยกัน และมี Kernel เป็นตัวควบคุมหลัก เมื่อมีการเจาะระบบเข้ามา ก็จะเข้าถึง service ทุกประเภท และตัว kernel ได้ทันที
ถึงตรงนี้หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ เพราะ kernel เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความรู้เฉพาะทาง เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ขอให้ทุกท่านลองนึกภาพตามดังนี้ครับ
Android OS คือบ้านที่มีแค่ประตูเดียว และไม่มีการแบ่งห้อง สมาชิกทุกคนในครอบครัวจะอยู่รวมกันที่ห้องโถง โดยมี kernel เป็นหัวหน้าครอบครัวคอยสั่งงานสมาชิกทุกคนในบ้าน วันดีคืนดีถ้ามีโจรงัดประตูบ้านเข้ามา ก็จะเข้าถึงทุกคนในบ้านได้ทันที หรือถ้าโจรสามารถจับตัวหัวหน้าครอบครัวไปได้ ระบบทุกอย่างในบ้านก็จะล้มเหลว เพราะไม่มีใครสั่งการ
ขณะเดียวกัน HarmonyOS คือบ้านที่มีการแบ่งห้องหลายห้อง สมาชิกทุกคนมีห้องเป็นของตัวเอง และทำหน้าที่ของตัวเอง เมื่อมีโจรงัดประตูหน้าบ้านเข้ามา ก็จำเป็นจะต้องงัดประตูห้องต่อ จึงจะสามารถเข้าถึงสมาชิกครอบครัวคนใดคนหนึ่งได้ หากงัดห้องได้สำเร็จ ห้องอื่นๆ ก็ยังคงปลอดภัย และยังทำงานของตัวเองต่อไปได้เหมือนเดิม ด้วยเหตุนี้ HarmonyOS จึงมีความปลอดภัยสูงกว่า Android OS ในทางทฤษฎี
นอกจากข้อได้เปรียบเรื่องความปลอดภัย HarmonyOS ยังเป็นระบบปฏิบัติการที่ออกแบบมาให้รองรับการทำงานบนอุปกรณ์ทุกประเภทแบบไร้รอยต่อ (seamless) ไม่เฉพาะแค่สมาร์ทโฟนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอุปกรณ์ IoT อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทวอทช์, อุปกรณ์ fitness tracker, ระบบความบันเทิงในรถยนต์, สมาร์ททีวี, อุปกรณ์สมาร์ทโฮม เป็นต้น ด้วยความเป็นหนึ่งเดียวนี้เอง ทำให้นักพัฒนาสามารถเขียนแอปพลิเคชันขึ้นมาตัวเดียว แล้วพอร์ตไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ที่รันบน HarmonyOS ได้ทันที คุณสมบัตินี้เป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งเสริมให้ Ecosystem ของ HarmonyOS ขยายตัวได้เร็วขึ้น และ “อาจจะ” กลายเป็นระบบที่แข็งแกร่งทัดเทียมกับ Android และ iOS ได้ในเวลาไม่นาน
HarmonyOS 2.0 บนสมาร์ทโฟน
ล่าสุด Huawei ได้ปล่อย HarmonyOS 2.0 beta สำหรับสมาร์ทโฟนให้นักพัฒนาได้ลองใช้กันแล้ว จากตัวอย่างที่นักพัฒนานำมาสาธิตให้ดู เราจะเห็นว่า HarmonyOS 2.0 มีหน้าตาที่ละม้ายคล้ายกับ EMUI 11 มาก และมีวิธีการใช้งานที่ไม่ต่างจาก Android ที่ผู้ใช้คุ้นเคยอยู่แล้ว จึงไม่ต้องเรียนรู้วิธีใช้งานมากนัก
อย่างไรก็แล้วแต่ ดูเหมือนว่า HarmonyOS จะยังคงก้าวไม่พ้นเงาของ Android เมื่อมีนักพัฒนารายหนึ่งจาก XDA-Developers ได้ลองแกะโค้ดระบบปฏิบัติการของ Huawei นี้ดูอย่างละเอียด และพบว่าจริงๆ แล้ว HarmonyOS ยังคงมีพื้นฐานการทำงานมาจาก Android อยู่ดี
ตัวอย่างข้อความแจ้งเตือนบนระบบ Android (ซ้าย) และ HarmoyOS 2.0 (ขวา)
นักพัฒนารายนี้ได้เขียนแอปพลิเคชันง่ายๆ ที่ชื่อว่า Hello World ขึ้นมา โดยกำหนดให้ตัวแอปรองรับ Android 4.4 KitKat จากนั้นจึงลองรันแอปนี้บน virtual machine ของ HarmonyOS 2.0 beta ผลปรากฏว่าแอปแสดงข้อความแจ้งเตือนที่เหมือนกับของ Android ต่างกันเพียงแค่ชื่อ Android ในข้อความที่ถูกเปลี่ยนเป็น HarmonyOS เท่านั้น
นอกจากนี้ เขายังได้ลองแกะ partition ของ HarmomyOS ดู และพบว่า HarmonyOS นั้นใช้ framework เดียวกันกับระบบ Android ทั้งหมด
กระนั้นก็ตาม หากจะบอกว่า HarmonyOS “ก็อปปี้” Android ก็ดูจะเร็วเกินไป การเดินทางของ HarmonyOS เพิ่งจะเริ่มขึ้นเท่านั้น และยังต้องผ่านการปรับปรุงและพัฒนาต่อไปอีกมาก ซึ่งเชื่อว่า HarmonyOS จะค่อยๆ ถอยห่างออกจากเงาของ Android และเติบโตอย่างอิสระตามหนทางของตัวเองได้ในทีสุด แต่จะเป็นเมื่อไหร่นั้น ก็ต้องรอดูกันต่อไปครับ
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 14/1/2564
