Cyberverse อีกหนึ่งอาวุธลับ Huawei ที่รวมโลกจริง กับโลกดิจิทัลไว้ แบบไร้รอยต่อ ผ่านจอสมาร์ทโฟน
งาน Huawei Developer Conference 2019 (HDC 2019) ครั้งนี้เรียกว่ามีไฮไลท์ในแต่ละวันแบบไม่ซ้ำกันเลยทีเดียว โดยในวันแรก (9 สิงหาคม) เราขอยกให้เป็นวันของ HarmonyOS (HongmengOS) ส่วนวันถัดมา (10 สิงหาคม) เราขอยกให้เป็นวันของ EMUI 10 และสำหรับวันสุดท้ายคือวันที่ 11 สิงหาคม 2019 ทาง Huawei ได้พาเราเข้าไปเยือนหนึ่งในดินแดนในฝันของนักวิจัย และพัฒนา นั่นคือ Huawei Ox Horn Campus (Songshan Lake Campus) อาณาจักรสุดอลังการใหม่ล่าสุดของ Huawei ที่จำลองเมืองชื่อดังในยุโรปเอาไว้ในที่เดียวกันถึง 12 เมือง ซึ่งทุ่มทุนสร้างด้วยงบประมาณมหาศาลเฉียด 5 หมื่นล้านบาท และมีพนักงานในนั้นกว่า 25,000 คน บนพื้นที่ใหญ่ถึง 9 ตารางกิโลเมตร จนต้องสร้างระบบรางรถไฟของตัวเองเพื่อการเดินทางภายใน แถมยังลงทุนนำเข้าตู้รถไฟสุดหรูจากสวิตเซอร์แลนด์มาใช้วิ่งอีกต่างหาก ซึ่งที่ Huawei ยอมทุ่มทุนขนาดนี้ ก็เพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจ กับสภาพแวดล้อมดีๆ เพื่อให้พนักงานทุ่มเททำงานได้อย่างเต็มที่นั่นเอง
โดยไฮไลท์ในวันดังกล่าวที่ Ox Horn Campus ก็คือการจัดงานแสดง (Exhibition) ที่ทาง Huawei ได้นำเอาสุดยอดนวัตกรรม และเทคโนโลยีล่าสุดของตนเอง มาจัดแสดง เพื่อดึงดูดความสนใจจากนักพัฒนา (Developer) จากทั่วทุกมุมโลก กล่าวคือบรรดานักพัฒนาที่เข้ามาร่วมชมงานจะได้รู้ว่าหลังบ้านของ Huawei นั้นมีทีเด็ดอะไรที่สร้างมาเพื่อนักพัฒนาบ้าง เรียกว่าเหมือนเป็นการเชิญชวนนักพัฒนาให้เข้ามาร่วมกันพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ภายใต้ระบบนิเวศ (Ecosytem) ที่เพียบพร้อมของ Huawei นั่นเอง
ท่ามกลางนวัตกรรรมมากมายที่ Huawei ในนำมาแสดงในงานนี้ มีอยู่นวัตกรรมหนึ่งที่เราสนใจเป็นพิเศษ และเลือกที่นำมาพูดถึงในวันนี้ นั่นก็คือ Cyberverse เทคโนโลยีในฝันที่ช่วยหลอมรวมโลกดิจิทัล กับโลกแห่งความเป็นจริงเข้าไว้ด้วยกัน ในรูปแบบของข้อมูล MR (Mixed Reality) ที่ผสานเข้ากับอินเทอร์เฟซที่รองรับการโต้ตอบกับผู้ใช้ ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง Huawei ก็ยังไม่เคยเผยโฉมหน้าตาที่แท้จริงของเทคโนโลยี Cyberverse มาก่อน อย่างมากก็มีแค่เพียงการกล่าวถึงสั้นๆ ในช่วงการนำเสนอบนเวทีของงาน HDC 2019 วันแรก ในวันที่ 9 สิงหาคม เท่านั้น ดังนั้นจึงเหมือนเป็นการกระตุกต่อมความสนใจของบรรดานักพัฒนา รวมถึงทีมงานของเราเองได้ไม่น้อย และในที่สุดวันที่ 11 สิงหาคม ที่ผ่านมา Huawei ก็ได้ฤกษ์เผยแพร่คลิปวิดีโอการใช้งานเทคโนโลยี Cyberverse บนสมาร์ทโฟนของตนเองแบบชัดๆ เป็นครั้งแรก ซึ่งก็หมายความว่าเทคโนโลยีนี้สามารถนำมาใช้งานได้จริงแล้ว ดังนั้นวันนี้เราจึงขอนำเอาข้อมูลเบื้องหลัง และรายละเอียดต่างๆ ของ Cyberverse มาสรุปให้ทุกท่านได้รู้จักกับเทคโนโลยีนี้กันมากขึ้น
Cyberverse คืออะไร และทำงานอย่างไร?
จากคำกล่าวของคุณ Luo Wei หัวหน้าวิศวกรกล้องถ่ายภาพของ Huawei ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของกล้องถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟน Huawei มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่สมาร์ทโฟนกล้องคู่รุ่นแรก มาจนถึงสุดยอดสมาร์ทโฟนเพื่อการถ่ายภาพรุ่นล่าสุดที่มีกล้องหลังถึง 4 ตัวอย่าง P30 Pro มีใจความว่า เทคโนโลยี Cyberverse นั้นเป็นการหลอมรวมความสามารถของสุดยอดนวัตกรรมหลายๆ อย่างเข้าไว้ด้วยกัน ประกอบไปด้วยแผนที่ 3 มิติความละเอียดสูง, การคำนวณเชิงพื้นที่ (Spatial Computing), การเข้าใจในสถานการณ์ที่ดีกว่าเดิม และการเรนเดอร์ภาพสัมผัสที่เสมือนจริงในระดับสูง นอกจากนี้เทคโนโลยี Cyberverse ยังถูกผสานเข้ากับสถาปัตยกรรมเครือข่ายความเร็วสูงแบบ 5G เพื่อการทำงานร่วมกันในรูปแบบของ Cloud-Pipe-Device ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างโลกเสมือนที่หลอมรวมเข้ากับโลกแห่งความเป็นจริง และมอบบริการใหม่ๆ ที่มีประโยชน์แก่ผู้ใช้งาน
Cyberverse นั้นพัฒนาอยู่พื้นฐานของเทคโนโลยีล่าสุดอย่าง Mixed Reality (MR) ซึ่งเป็นการรวมเข้าด้วยกันของเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) กับ Virtual Reality (VR) ซึ่งการคำนวณเชิงพื้นที่ (Spatial Computing) ในทุกสถานการณ์ของ Cyberverse นั้น จะช่วยให้การระบุตำแหน่งของสมาร์ทโฟนมีความแม่นยำลงไปถึงระดับเซนติเมตร และสามารถรับรู้ถึงทิศทางได้แม่นยำด้วยขอบเขตของความผิดพลาดเพียงแค่ 1 องศาเท่านั้น ซึ่งนี่ก็คือการระบุข้อมูลตำแหน่ง และทิศทาง ที่มีความแม่นยำอยู่ในระดับสูง จนนำไปสู่ความเป็นไปได้ของการผสานกันระหว่างโลกแห่งความเป็นจริง กับโลกเสมือนแบบไร้รอยต่อ
การเข้าใจในทุกสถานการณ์ของ Cyberverse นั้นเป็นการประยุกต์ใช้เทคนิคซอฟต์แวร์ที่เลียนแบบระบบเซลล์ประสาทในสมองมนุษย์ (Deep Learning) ในการวิเคราะห์ข้อมูลตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพของสมาร์ทโฟนในเรื่องของความแม่นยำในการแยกแยะสภาพแวดล้อม และวัตถุทางกายภาพต่างๆ ได้เป็นอย่างมาก
ฟังก์ชัน HDMAP (High Definition MAP) ของ Cyberverse นั้นสามารถวาดภาพแบบหลายมิติด้วยความแม่นยำสูงได้โดยอัตโนมัติ และมีประสิทธิภาพ รวมทั้งแผนที่ความละเอียดสูงที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยอัตโนมัตินี้ จะช่วยแยกแยะลักษณะต่างๆ ของสภาพแวดล้อมโดยรอบได้ ซึ่งฟังก์ชัน HDMAP นี้จะช่วยให้สมาร์ทโฟนได้รับข้อมูลภาพ 3 มิติจากสภาพแวดล้อมที่ถูกต้องแม่นยำ ดังนั้นการเรนเดอร์โลกเสมือนจริงของเทคโนโลยี Cyberverse ก็เหมือนเป็นการรวมภาพเสมือน เข้ากับโลกแห่งความจริง จนช่วยให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่สมจริง และมีสีสันมากกว่าเดิม
Cyberverse ใข้งานอย่างไร และแสดงผลแบบไหน?
รูปแบบการใช้งาน Cyberverse บนสมาร์ทโฟนถือว่าง่าย และผู้ใช้งานแค่ต้องเรียนรู้เพิ่มเติมอีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นั่นคือเราแค่หยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา ทำการเปิดกล้อง แล้วเดินส่องไปข้างหน้าตามทางที่เรากำลังเดินไป เราก็จะเห็นข้อมูลต่างๆ มากมายในรูปแบบกราฟิก 3 มิติที่เสมือนจริง มาผสานเข้ากับสถานที่ หรือวัตถุในโลกแห่งความจริงอย่างสวยงามแนบเนียนราวกับหลุดออกมาจากภาพยนตร์ไซไฟเลยทีเดียว และที่สำคัญเรายังสามารถโต้ตอบกับข้อมูล หรือกราฟิกเหล่านั้นได้ด้วย เช่นเราอาจเห็นสัญลักษณ์กราฟิกที่ชี้ไปยังคนที่อยู่ตรงหน้าเรา ที่สามารถบอกได้ว่าคนๆ นั้นชื่ออะไร, ชอบทำงานอดิเรกอะไร หรือใช้บัญชีโซเชียลมีเดียไหนบ้าง ขึ้นอยู่กับว่าคนๆ นั้นอนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลใดบ้างนั่นเอง ซึ่งทาง Huawei ก็ให้ความสำคัญกับการตัดสินใจเลือกเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานทุกคนด้วยเช่นกัน นอกจากนี้หากเราส่องไปที่ตัวสินค้า เราก็อาจเห็นราคาล่าสุด หรือโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย ณ เวลานั้นแบบ Real-Time ได้ทันที ซึ่งช่วยให้เราตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
หนึ่งในการการสาธิตแรกๆ ที่ทาง Huawei แสดงให้ดูที่ Ox Horn Campus ในวันดังกล่าวก็คือ เราจะเห็นรูปภาพเสมือนปรากฎอยู่บนกำแพงตึก และร้านค้า ซึ่งภายในรูปภาพเหล่านี้แสดงให้เห็นข้อมูลที่เจ้าของรูปภาพ หรือเจ้าของป้าย ต้องการเผยแพร่สู่สาธารณะ และมีบางกำแพงที่มีป้ายในรูปแบบของคลิปวิดีโอที่เราสามารถกดเล่นเองได้ทันที รวมถึงระบบนำทางที่แสดงทิศทางด้วยลูกศรชี้แบบ 3 มิติที่ปรากฎอยู่บนพื้นถนน
ไม่มีเพียงแค่กราฟิกพื้นฐานอย่างรูปภาพ, ข้อความ หรือคลิปวิดีโอเท่านั้น แต่ที่น่าประทับใจมากเป็นพิเศษก็คือบรรดาตัวละคร หรือตัวการ์ตูนเสมือนจริงที่เคลื่อนไหวได้ อีกทั้งเรายังสามารถโต้ตอบกับตัวละครเหล่านั้นได้ราวกับมีชีวิตจริง หรืออาจจะเป็นสิ่งอื่นๆ ที่เราสามารถหยิบออกมาเล่นสนุกๆ ได้ เช่นจรวดเสมือน ที่สั่งยิงให้เด้งไปมาตามกำแพง หรือตึกรามบ้านช่องได้ ราวกับได้เล่นเกมในโลกแห่งความจริงเลยทีเดียว
ก้าวต่อไปของ Cyberverse
ด้วยการเผยโฉมเทคโนโลยี Cyberverse นี้ เจ้าของนวัตกรรมอย่าง Huawei เองก็เหมือนกับได้ช่วยเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เชื่อมเข้ากับโลกแห่งความจริงแบบไร้รอยต่อ และแน่นอนว่า Huawei ก็ได้ตระเตรียมโครงสร้างการพัฒนาสำหรับบรรดานักพัฒนา และพันธมิตรไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อเป็นการเชื้อเชิญให้พวกเขาเหล่านั้นมาร่วมสร้างโลกดิจิทัลใบใหม่ไปพร้อมๆ กัน
ด้านคุณ Luo Wei ได้คาดการณ์ล่วงหน้าไว้ว่า เทคโนโลยี Cyberverse จะถูกนำไปใช้งานจริงตามที่สาธารณะในอนาคตอันใกล้ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว, พิพิธภัณฑ์, มหาวิทยาลัยอัจฉริยะ (Smart Campus), สนามบิน, สถานีรถไฟความเร็วสูง และอาคารพาณิชย์ โดย Huawei ประมาณการณ์ไว้ว่าจะเป็นช่วงเวลาก่อนสิ้นปี 2019 นี้ เริ่มที่การติดตั้งสถานีทดสอบ 5 แห่งที่ครอบคลุมการใช้งานในสถานการณ์ต่างๆ หลังจากนั้น Cyberverse จะถูกติดตั้งเพิ่มเป็น 100 สถานีก่อนสิ้นไตรมาสที่ 2 ของปี 2020 และจะเพิ่มจำนวนเป็น 1,000 สถานีในช่วงสิ้นปี 2020 ซึ่งหากการดำเนินงานพัฒนามีความคืบหน้าไปตามแผนที่วางเอาไว้ บริการเสมือนจริงแบรนด์ใหม่ และประสบการณ์การโต้ตอบที่ไร้รอยต่อระหว่างโลกเสมือน กับโลกแห่งความจริง ก็จะถูกนำไปสู่ผู้ใช้งานจริงได้ในที่สุด โดยสิ่งนี้จะมีอิทธิพลเป็นอย่างยิ่งสำหรับวิธีการโต้ตอบระหว่างผู้ใช้งาน กับสมาร์ทโฟน และประสบการณ์การใช้งานที่เราๆ ท่านๆ จะได้รับกลับมา และแน่นอนว่า Huawei จะเร่งจับมือกับพันธมิตร ในการนำโลกดิจิทัลไปสู่สาธารณชน, บ้านเรือน และองค์กรต่างๆ เพื่อการเชื่อมต่อกันแบบโลกอัจฉริยะอย่างเต็มรูปแบบ ส่วนผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน Huawei ในบ้านเราจะมีโอกาสได้ใช้งานเทคโนโลยี Cyberverse นี้ด้วยหรือไม่ หากมีข่าวคราวความเคลื่อนไหว เราก็จะนำมาอัปเดตให้ทุกท่านได้ทราบกันอีกครั้งอย่างแน่นอน
ข้อมูลเพิ่มเติม : Huawei [1], Huawei [2]
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจของงาน Huawei Developer Conference 2019
- รู้จัก HarmonyOS ระบบปฏิบัติการใหม่แห่งอนาคต พบคำตอบ Huawei สร้าง Ecosystem อย่างไร เพื่อเชื่อมทุกสมาร์ทดีไวซ์ ในทุกสถานการณ์
- เจาะฟีเจอร์ EMUI 10 ประสบการณ์ UX ครั้งใหม่ในสมาร์ทโฟน Huawei เพื่อยกระดับส่วนติดต่อผู้ใช้ขึ้นไปอีกขั้น
- พาทัวร์ Huawei Ox Horn Campus อาณาจักร 5 หมื่นล้าน สำนักงานในฝัน ที่ทุกวันเหมือนอยู่ในยุโรป
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 19/8/2562
