เช็คก่อนซื้อ! วิธีสังเกตมือถือปลอม มือถือก็อป รู้ไว้ไม่โดนหลอกแน่นอน

หลายปีมานี้ตลาดสมาร์ทโฟนในบ้านเราเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะตลาดสมาร์ทโฟนราคาประหยัด ความต้องการมือถือราคาถูกมีมากขึ้น ทำให้มือถือก็อปจากจีน และเกาหลี เริ่มหลั่งไหลเข้ามาในตลาดมากขึ้นไปด้วย แม้บางร้านจะบอกไว้อย่างชัดเจนว่ามือถือที่จำหน่ายเป็นมือถือก็อป เพื่อขายให้กับคนที่ต้องการใช้มือถือก็อปจริงๆ แต่บางร้านก็ไม่ยอมบอกให้ชัดเจน โดยมีเจตนาหลอกให้ผู้ที่ไม่รู้มาซื้อไปเพราะเข้าใจว่าเป็นของแท้ จนมีคนตกเป็นเหยื่ออยู่เรื่อยๆ ทำเอาเสียทั้งเงิน ทั้งความรู้สึก เพราะฉะนั้นในวันนี้เราจะมาแนะนำการดูมือถือปลอม-มือถือก็อปแบบง่ายๆ ให้ทุกท่านได้เลือกซื้อสมาร์ทโฟนกันอย่างสบายใจ ไม่โดนหลอกครับ

มือถือก็อปมักจะมีราคาถูกผิดวิสัย

จุดแรกที่สังเกตได้ง่ายๆ คือราคา มือถือก็อปจะมีราคาที่ถูกกว่าปกติมาก อาจถูกกว่ากันถึง 80% ยกตัวอย่างเช่น iPhone 12 Pro Max ที่ขายบน Shopee ในราคา 4,950 บาท ทั้งที่ราคากลางอยู่ที่ 36,900 บาท ใครที่เห็นแก่ของถูก หรือไม่รู้ราคาจริง ก็จะหลงกลได้ง่ายๆ 

จริงๆ แล้วจุดนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน เพียงแค่เรามีสติและพิจารณาดูสักนิด เราจะเห็นได้ทันทีว่าไม่มีใครกล้าเอา iPhone 12 Pro Max ราคา 36,900 บาทมาขายในราคาไม่ถึง 5,000 บาทอยู่แล้ว ต่อให้เป็นเครื่องมือสองสภาพผ่านสงครามก็ยังไม่ได้ราคานี้ด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้น iPhone 12 Pro Max ที่ว่านี้ ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่นอน

อย่างไรก็ตาม มือถือที่ราคาถูกกว่าราคากลาง อาจไม่ใช่มือถือปลอมเสมอไป บางร้านอาจขายมือถือเครื่องแท้ได้ในราคาที่ถูกกว่าร้านอื่นราวๆ 500 - 2,000 บาท ด้วยเหตุผลบางอย่าง เช่น ไม่มีของแถมให้, เครื่องมีตำหนิตั้งแต่แกะกล่อง, ล้างสต็อก, เร่งยอดขายประจำเดือน หรือเป็นโปรโมชันตามช่วงเทศกาล เป็นต้น หรือถ้าเป็นช่วง Flash Sale อาจมีการลดราคามากถึง 50% ขึ้นไป ดังนั้นเราจึงมีโอกาสซื้อมือถือเครื่องแท้ในราคาที่ถูกกว่าปกติได้ในบางโอกาส แต่ไม่ว่าอย่างไรก็จะไม่มีทางถูกแบบหั่นราคาลงมา 80-90% แน่นอน

สังเกตคำที่ใช้ในการอธิบาย

ร้านที่มีเจตนาไม่สุจริต จะไม่บอกตรงๆ ว่ามือถือที่ขายเป็นของก็อป แต่ก็ไม่บอกว่าเป็นของแท้เช่นกัน โดยจะใช้คำเลี่ยงบาลีที่มีความหมายกำกวมแทน อาทิเช่น งานเกาหลี, งานมิลเลอร์, งานเหมือนแท้, เกรดA, งานพรีเมียม, สเปกแท้ ฯลฯ เจอคำเหล่าเมื่อไหร่ รู้ไว้เลยว่าของก็อปแน่นอน

สเปกชวนงง ตรงบ้างไม่ตรงบ้าง

อีกจุดหนึ่งที่สังเกตได้คือมือถือปลอมมักจะบอกสเปกไม่ชัดเจน หรือต่างไปจากสเปกจริงๆ ของสมาร์ทโฟนรุ่นนั้นๆ ยกตัวอย่างเช่น :

(สเปกที่ทางร้านระบุไว้)

• รุ่น: N20U 
• ฝาหลัง: กระจกโค้ง 3D เทคโนโลยีใหม่ 
• ชิป: MT6889 Deca Core (สิบคอร์)
• มาตรฐานเครือข่าย: 5G, การ์ดแบบคู่สแตนคู่, นาโนซิมการ์ด
• ขนาดหน้าจอ: 6.9 นิ้ว FHD + AMOLED ความละเอียด: 1440 * 3088 พิกเซล หน่วยความจำในการทำงาน (RAM) 8GB หน่วยความจำร่างกาย (ROM) 256GB รองรับการปลุกอัจฉริยะ, การจดจำใบหน้า, ลายนิ้วมือบนหน้าจอ, การปลดล็อกม่านตา, ด้วย WIFI + BT + FM + GPS, พอร์ตชาร์จ Type-C, พอร์ตหูฟัง Type-C แอนดรอยด์ 10.0.2 รองรับการ์ดหน่วยความจำ: รองรับการขยายสูงสุด 256GB
• กล้องหน้า 24 ล้านพิกเซลรูรับแสง f / 2.0 ทางยาวโฟกัสคงที่
• กล้องหลัง 48 ล้านพิกเซล (รูรับแสง f / 1.8) ออโต้โฟกัส
• ความจุแบตเตอรี่ 5500mAh 

จากสเปกข้างต้น หากใครที่พอจะดูสเปกมือถือเป็นอยู่แล้ว จะเห็นจุดที่ผิดสังเกตหลายจุดด้วยกัน เช่น :

1. ชื่อรุ่น N20U กับรูปตัวเครื่องที่คล้ายกับ Samsung Galaxy Note20 Ultra อย่างมาก ชวนให้เข้าใจผิดว่าเป็น Samsung Galaxy Note20 Ultra แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่
2. ฝาหลังกระจกโค้ง 3D เทคโนโลยีใหม่ แต่ไม่บอกว่าเป็นเทคโนโลยีอะไร
3. ชิปเซ็ต MT6889 Deca Core (สิบคอร์) หากลองนำรหัสนี้ไปค้นหาดูใน Google เราจะทราบว่าเป็นรหัสของชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 1000 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตระดับบน ไม่มีทางถูกนำมาใส่ในมือถือราคา 2,000 กว่าบาทแน่นอน และที่สำคัญ ชิปรุ่นนี้มีแค่ 8 คอร์
4. ในตอนนี้ (มกราคม 2564) สมาร์ทโฟน 5G ที่ราคาถูกที่สุดในประเทศไทยมีราคาอยู่ที่ 9,990 บาท จู่ๆ จะมาขายในราคา 2,000 กว่าบาท เป็นไปไม่ได้แน่นอน
5. RAM ROM แบตเตอรี่เยอะขนาดนี้ ในราคานี้ เป็นไปไม่ได้แน่นอน
6. กล้องหน้ากับกล้องหลังสเปกไม่ตรง Samsung Galaxy Note20 Ultra มีกล้องหน้าความละเอียด 10 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหลังมีความละเอียด 108 ล้านพิกเซล

สำหรับใครที่เป็นผู้ใช้ทั่วไป ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องการอ่านสเปกมือถือ ก็สามารถเข้าไปตรวจสอบสเปกของสมาร์ทโฟนที่ถูกต้องได้ที่หน้าเว็บไซต์ของแบรนด์นั้นๆ หรือจะดูจากฐานข้อมูลบนเว็บไซต์ Thaimobilecenter ของเรา และเว็บไซต์ไอทีชื่อดังอื่นๆ ในบ้านเราก็ได้เหมือนกันครับ

ชื่อคล้าย แต่ไม่เหมือน

HUAWI ที่ไม่ใช่ HUAWEI

อาจใช้ทริกตั้งชื่อให้คล้ายๆ กับแบรนด์จริงๆ เช่น Huawi, Huavi, Vivi, V1V0, iMi, Ximi หรือชื่อรุ่นแปลกๆ ที่ชวนให้สับสน เช่น Rino5 Pro, S20U, i13 Pro Max เป็นต้น ดังนั้นจึงควรสังเกตชื่อรุ่นและชื่อยี่ห้อให้ดีๆ ครับ

วางขายก่อนเปิดตัว

Samsung Galaxy S21 ปลอมที่วางขายในจีนก่อนที่ของจริงจะเปิดตัวในสัปดาห์ถัดไป

ช่วงเวลาก่อนที่มือถือรุ่นดังๆ จะเปิดตัว เป็นช่วงที่มือถือปลอมตกเหยื่อได้ง่ายที่สุด เพราะเป็นจังหวะที่กระแสกำลังพีค หากปล่อยของปลอมมาล่อตอนนี้ หลายคนก็พร้อมที่จะตะครุบทันทีโดยไม่ได้คิดให้ถี่ถ้วนก่อน โดยหวังว่าจะได้สัมผัสมือถือรุ่นใหม่ก่อนใคร ดังนั้น เราจึงควรตรวจสอบวันเปิดตัว, วันเปิด pre-order และวันวางจำหน่ายในไทยของมือถือรุ่นนั้นๆ ให้ดี ซึ่งสามารถติดตามได้จากเว็บไซต์ Thaimobilecenter และเว็บไซต์ไอทีชื่อดังอื่นๆ หรือจะสอบถามกับเจ้าหน้าที่ในช็อปประจำแบรนด์นั้นๆ ก็ได้ครับ

ต้องซื้อที่ไหน ถึงจะไม่เจอของปลอม?

ซื้อกับศูนย์โดยตรงชัวร์กว่า

ส่วนใหญ่แล้วมือถือปลอมจะวางขายบนร้านค้าออนไลน์ และ Facebook เป็นส่วนใหญ่ สมัยนี้จะไม่ค่อยได้เห็นตามร้านตู้แล้ว (แต่บางร้านสามารถหาให้ได้ ถ้าต้องการ) แต่ถ้าอยากมั่นใจว่าได้ของแท้ชัวร์ๆ แนะนำให้ซื้อผ่านช่องทางดังนี้ครับ

1. ซื้อกับตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ มีหน้าร้านชัดเจน เช่น TG FONE, Banana IT, JIB, CSC เป็นต้น
2. ซื้อกับผู้ให้บริการเครือข่าย AIS, Truemoe H, dtac
3. ซื้อที่ช็อปของแบรนด์นั้นๆ โดยตรง
4. สั่งซื้อออนไลน์กับร้านค้าทางการของแต่ละแบรนด์ หรือร้านที่ลงทะเบียนอย่างเป็นทางการกับ Shopee, Lazada, JD เป็นต้น

ซื้อของแท้ดีกว่า

ของแท้ไว้ใจได้ สเปกตรงปกไม่จกตา

หากเรามีเงิน 5,000 บาทในมือ เลือกซื้อสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่เป็นของแท้ คุ้มกว่าเลือกซื้อ iPhone 12 Pro Max หรือ Samsung Galaxy Note29 Ultra งานก็อปแน่นอน ถึงแม้ว่าจะดูไม่หรูเท่า แต่เราก็ได้สิทธิประโยชน์หลายอย่าง อาทิเช่น :

• งานประกอบดีกว่า เพราะผู้ผลิตมือถือแต่ละแบรนด์จะมีการตรวจสอบคุณภาพสินค้า (QC) อยู่แล้ว ต่างจากมือถือก็อปที่มีบ้าง หรืออาจจะไม่มีเลย
• สเปกตรงปก ไว้ใจได้ ไม่งอแง
• มีการรับประกัน และมีบริการหลังการขายคอยซัพพอร์ต ถ้าเครื่องมีปัญหาสามารถติดต่อศูนย์บริการ หรือขอเคลมได้ แต่ถ้าเป็นมือถือก็อป เราจะไม่สามารถเรียกร้องอะไรจากใครได้เลย
• ได้รับอัปเดตแพทช์รักษาความปลอดภัยสม่ำเสมอ
• ประสบการณ์การใช้งานดีกว่า ได้ใช้ซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นใหม่ๆ ที่มีความเสถียรและมีประสิทธิภาพ ในขณะที่มือถือก็อปมักจะมากับซอฟต์แวร์เก่าๆ ที่หลอกเราว่าเป็นของใหม่ เช่นบอกว่าเป็น Android 9 Pie แต่จริงๆ แล้วเป็น Android 6 Marshmallow เป็นต้น

รู้อย่างนี้แล้ว ก็มาใช้มือถือแท้กันดีกว่า ถ้านึกไม่ออกว่าจะซื้อรุ่นไหนดี ก็ลองเข้าไปดูที่บทความ แนะนำมือถือน่าสนใจราคาไม่เกิน 5,000 บาท ได้เลยครับ

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com

วันที่ : 8/1/2564