ไอโฟน ไม่แจ้งเตือนข้อความ สายโทรเข้า แก้อย่างไร ?

ปัญหาการแจ้งเตือน เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนมักจะพบเจอกัน โดยเฉพาะในไอโฟนที่จู่ ๆ ก็ไม่มีการแจ้งเตือน หรือเสียงแจ้งเตือน แม้ว่าจะไม่ได้เปิดโหมดปิดเสียงไว้ก็ตาม ในวันนี้ทางทีมงานรวบรวมวิธีแก้ปัญหาไอโฟนไม่แจ้งเตือน มาฝากทุกท่านเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ

1.ตรวจสอบการตั้งค่าการแจ้งเตือน

หากพบว่ามีเพียงบางแอปฯ เท่านั้นที่ไม่ยอมแจ้งเตือน แนะนำให้ลองตรวจสอบจากการตั้งค่าของตัวเครื่อง เพราะในบางครั้งเราอาจเผลอไปปิดการแจ้งเตือนโดยไม่ได้ตั้งใจ โดยมีวิธีการตรวจสอบดังนี้

เข้าไปที่การตั้งค่า
การแจ้งเตือน
เลือกแอปฯ ที่ไม่แจ้งเตือน
ตรวจสอบสถานะตามออพชันต่าง ๆ ว่าได้มีการเปิดใช้งานครบทุกช่องหรือไม่ โดยแนะนำให้เปิดครบทุกช่อง
จากนั้นรีสตาร์ทเครื่อง

2.ตรวจสอบการตั้งค่าใน Notification Centre

ในบางครั้งมือเราอาจเผลอไปโดนตัวเลือกปิดการแจ้งเตือนแอปฯ นั้น ๆ เป็นเวลาชั่วคราวจากหน้า Notification Centre หรือศูนย์การแจ้งเตือน ส่งผลให้แอปฯ ไม่ส่งการแจ้งเตือนซ้ำให้กับผู้ใช้ตามเวลาที่กำหนด โดยวิธีแก้มีดังนี้

ลากนิ้วจากแถบด้านซ้ายบน
เลื่อนหาแอปฯ ที่ไม่แจ้งเตือน และปัดไปทางซ้ายจนพบคำว่า ตัวเลือก (Option)
แตะที่ตัวเลือก
หากพบคำว่า เลิกปิดการแจ้งเตือน (Unmute) ให้แตะที่ตัวเลือกดังกล่าว

3.เปิดการแจ้งเตือนแบบ สำคัญต่อเวลา

ใน iOS 15 จะมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า การแจ้งเตือนที่สำคัญต่อเวลา (Time Sensitive Notifications) ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้ได้รับการแจ้งเตือนจากแอปฯ ที่เปิดฟีเจอร์นี้ไว้แม้ว่าจะปิดเสียง หรือเปิดโหมด Focus อยู่ก็ตาม โดยสามารถเปิดใช้งานได้ดังนี้

เข้าไปที่การตั้งค่า
การแจ้งเตือน
เลือกแอปฯ ที่ต้องการ
แตะที่ การแจ้งเตือนที่สำคัญต่อเวลา (Time Sensitive Notifications)

4.ปิดการใช้ กำหนดเวลาส่งสรุป (Schedule Summary)

Schedule Summary เป็นฟีเจอร์ที่ทาง Apple คิดค้นมาเพื่อลดการรบกวนจากแอปฯ ที่มีการแจ้งเตือนอยู่ตลอดเวลา โดยระบบจะทำการสรุปการแจ้งเตือนตามเวลาที่ผู้ใช้กำหนดไว้ เช่น แจ้งเตือนเฉพาะช่วงเวลา 12.00 น. เป็นต้น เพื่อให้ผู้ใช้มีสมาธิในการทำอย่างอื่น โดยใครที่เผลอเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ ก็สามารถปิดฟังก์ชันดังกล่าวได้โดยเข้าไปที่

เข้าไปที่การตั้งค่า
การแจ้งเตือน
กำหนดเวลาส่งสรุป (Schedule Summary)
แตะที่ด้านบนเพื่อปิด

5.ตั้งค่าฟีเจอร์ใน Face ID

สำหรับไอโฟนที่มีระบบสแกนใบหน้าแบบ Face ID ทาง Apple ได้ใส่ฟีเจอร์ Attention Aware Features หรือคุณสมบัติการตั้งใจมอง มาให้ด้วย ซึ่งฟีเจอร์นี้จะทำการตรวจสอบว่าผู้ใช้กำลังมองหน้าจออยู่หรือไม่ หากมองอยู่ก็จะหรี่เสียงเรียกเข้าให้เบาลง เพราะระบบรับทราบแล้วว่าเรากำลังใช้งานอยู่ที่หน้าจอ แต่ก็ส่งผลกระทบต่อการแจ้งเตือนในบางครั้งที่อาจหลุดได้ โดยสามารถเข้าไปปิดฟีเจอร์ดังกล่าวได้ที่