แนะนำวิธีเลือกซื้อมือถือเครื่องแรกในชีวิต เลือกอย่างไรให้คุ้มค่า ถูกใจ ไม่โดนหลอก
ทุกวันนี้สมาร์ทโฟนได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราไปแล้ว เรียกได้ว่าต้องมีติดตัวกันไว้ทุกเพศทุกวัยไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงวัย หลายคนที่ยังไม่มีก็จำเป็นที่จะต้องมองหามาใช้สักเครื่อง เพื่อใช้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของรัฐ และทำธุรกรรมออนไลน์ หรือการเรียนออนไลน์ สำหรับใครที่กำลังจะซื้อมือถือเครื่องแรกในชีวิต แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกซื้ออย่างไรดี ในวันนี้เราก็มีข้อแนะนำสำหรับการเลือกซื้อมือถือเครื่องแรก ในแบบที่เข้าใจง่ายๆ มาฝากกันครับ
1. ไม่ต้องซื้อแพงๆ ก็ได้
บางคนอาจมีความเชื่อว่าสมาร์ทโฟนราคาถูกคือสมาร์ทโฟนที่ไม่ดี ต้องซื้อแพงๆ ราคา 10,000 - 20,000 บาทไปเลยถึงจะมีคุณภาพ ความเชื่อแบบนี้ก็ไม่ถูกเสียทีเดียว เพราะถึงแม้ว่ามือถือราคาแพงจะมีสเปกสูงก็จริง แต่มันก็อาจจะสูงเกินการใช้งานของเรา และมีฟีเจอร์พิเศษอีกหลายอย่างที่เราไม่จำเป็นต้องใช้ เช่น โหมดการถ่ายวิดีโอ ProRes ของ iPhone 13 หรือปากกา S Pen ของ Galaxy Note20 ที่บางคนแทบจะไม่ได้ใช้เลย เพราะต้องการซื้อมือถือมาเพื่อใช้งานทั่วไปเท่านั้น ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็ไม่ผิดอะไร แต่ก็เหมือนกับว่าเราซื้อมือถือมาแพงเกินไป และใช้งานไม่คุ้มนั่นเอง
ในส่วนของคุณภาพนั้น หากเป็นแบรนด์ที่เชื่อถือได้ก็จะมีการตรวจสอบคุณภาพอยู่แล้ว แม้จะเป็นมือถือราคาประหยัดราคาไม่กี่พันบาทก็ยังมีคุณภาพและงานประกอบที่ได้มาตรฐาน เพียงแต่วัสดุที่ใช้อาจดีเท่ากับรุ่นเรือธง ดังนั้น สมาร์ทโฟนทุกรุ่น หากมาจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถืออย่าง Samsung, OPPO, vivo, realme และอื่นๆ ไม่ว่าจะถูกหรือแพง ก็มีคุณภาพได้มาตรฐานเหมือนกันครับ
ปัจจุบันมีสมาร์ทโฟนเปิดตัวใหม่แทบทุกเดือน และมากับโปรโมชั่นมากมาย การเปลี่ยนมือถือจึงทำได้ง่ายมาก สำหรับสมาร์ทโฟนเครื่องแรก จึงไม่ควรซื้อรุ่นที่มีราคาแพงเกินไป เพราะหลังจากที่เราใช้งานจนรู้ข้อดี-ข้อเสียแล้ว เราจะรู้ตัวชัดเจนขึ้นว่าต้องการมือถือแบบไหน ถึงตอนนั้นค่อยเปลี่ยนไปใช้รุ่นที่แพงขึ้นจะคุ้มค่ากว่าครับ
2. ราคาเท่าไหร่ถึงจะเหมาะ ?
สมาร์ทโฟนในปัจจุบันมีประสิทธิภาพสูงกว่าที่หลายคนคิด แค่ราคาหลักพันก็สามารถใช้งานได้ครบถ้วนแล้ว หากต้องการสมาร์ทโฟนสำหรับใช้งานทั่วไป เล่นเกม เล่นโซเชียล ดูหนัง และถ่ายรูปเล่น แนะนำว่าควรเลือกสมาร์ทโฟนที่มีราคา 6,000 บาทขึ้นไป เพราะจะได้สมาร์ทโฟนที่มีสเปกสูงพอที่จะใช้งานได้อย่างลื่นไหลสบายใจ ไม่อึดอัด สามารถเล่นเกมทั่วไปอย่าง PUBG หรือ RoV ได้แบบลื่นๆ และถ่ายรูปได้ค่อนข้างดี
หากต้องการประหยัดกว่านั้น และไม่เน้นเล่นเกม ราคา 4,000 - 5,000 บาทก็ถือว่าเหมาะสม ใช้เล่นโซเชียล, สแกนคนละครึ่ง/ไทยชนะได้ และเรียนออนไลน์ได้ และพอจะเล่นเกมฆ่าเวลาได้บ้าง เหมาะสำหรับซื้อให้เด็กๆ ใช้
หรือถ้าต้องการประหยัดสุดๆ ก็มีมือถือราคา 2,000 - 3,000 บาทให้เลือกเช่นกัน เหมาะสำหรับการใช้งานเล็กๆ น้อยๆ ทั่วไป อย่างไรก็ดี ช่วงราคานี้จะมีมือถือปลอมเข้ามาปะปนด้วย จึงต้องระวังเป็นพิเศษครับ
หากไม่รู้จะเลือกรุ่นไหนดี ลองดูรุ่นที่เราแนะนำได้ในบทความด้านล่าง :
แนะนำมือถือราคาไม่เกิน 7,000 บาท
รวมมือถือราคาไม่เกิน 4,000 บาท
รวมมือถือราคาไม่เกิน 2,000 บาท
3. ระวังมือถือปลอม
มือถือปลอม คือมือถือคุณภาพต่ำที่จงใจเลียนแบบมือถือแบรนด์ดัง เพื่อให้ผู้ที่ไม่มีความรู้เรื่องมือถือหลงกลซื้อไปใช้ มือถือปลอมพวกนี้จะโฆษณาตัวเองว่ามีสเปกที่สูงส่งราวกับมือถือพรีเมียม เช่น กล้อง 108MP จอ 7 นิ้ว RAM 16GB แต่กลับมีราคาค่าตัวเพียงแค่ 1,000 - 2,000 บาท แถมยังมีชื่อรุ่น และดีไซน์ที่คล้ายกับมือถือรุ่นดังๆ อีกด้วย ทว่าแท้จริงแล้ว มือถือปลอมเหล่านี้มีสเปกที่ต่ำมากจนใช้งานแทบไม่ได้ อีกทั้งยังมีงานประกอบที่หยาบ และไร้มาตรฐานความปลอดภัยอีกด้วย ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงมือถือปลอมในทุกกรณี
สำหรับวิธีการตรวจสอบมือถือปลอม สามารถดูได้ที่ : เช็คก่อนซื้อ! วิธีสังเกตมือถือปลอม มือถือก็อป รู้ไว้ไม่โดนหลอกแน่นอน
4. 5G หรือ 4G ?
สำหรับมือถือเครื่องแรก 5G ยังไม่มีความจำเป็นเท่าไรนัก เพราะความเร็วของ 4G LTE นั้นก็เพียงพอต่อการใช้งานทุกประเภทแล้ว ในขณะที่ 5G ยังไม่ครอบคลุมทั่วประเทศ และยังไม่ค่อยเสถียรเท่าที่ควร ทั้งนี้ ในการใช้งานจริง ความเร็วของสัญญาณอินเทอร์เน็ตจะขึ้นอยู่กับราคาแพ็คเกจที่เราใช้บริการเป็นหลัก ไม่ใช่ 4G LTE หรือ 5G
อย่างไรก็ตาม หากใครต้องการสมาร์ทโฟน 5G จริงๆ ก็จะต้องมีงบที่ 8,000 บาทขึ้นไป และต้องดูด้วยว่ามือถือนั้นรองรับคลื่นในไทยหรือไม่ โดยคลื่นไทยที่รองรับ ได้แก่ 700 MHz (n28), 2600 MHz (n41) และ 26GHz (n258) ซึ่งสามารถสอบถามกับทางพนักงานขาย หรือตรวจสอบสเปกจากหน้าเว็บไซต์ของมือถือรุ่นนั้นๆ ได้ แต่ถ้าเป็นรุ่นใหม่ๆ ก็จะรองรับคลื่นในไทยอยู่แล้วครับ
5. ตรวจสอบประกัน และบริการหลังการขาย
อย่าลืมสอบถามเงื่อนไขการรับประกัน และการบริการหลังการขาย เช่น หากมีปัญหาเปลี่ยนเครื่องได้ภายในกี่วัน, ประกันจอแตกกี่เดือน, ส่งเคลมที่ไหน, มีศูนย์บริการตรงไหนบ้าง เป็นต้น ถ้าเป็นไปได้ก็ควรเลือกซื้อยี่ห้อที่มีศูนย์บริการใกล้บ้านเพื่อความสะดวกในการติดต่อครับ
6. ซื้อมือสองดีไหม ?
หากนี่เป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกในชีวิต แนะนำว่าไม่ควรซื้อมือสองมาใช้ เพราะการตรวจเช็คสภาพมือถือมือสองต้องใช้ความรู้และประสบการณ์พอสมควร มือใหม่อย่างเราอาจโดนต้มจนเปื่อยได้ง่ายๆ เว้นแต่ว่าจะมีผู้ที่มีความรู้ในเรื่องนี้ไปช่วยเลือกให้ครับ
มาถึงตรงนี้ หวังว่าใครที่กำลังจะซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องแรกจะเลือกซื้อรุ่นที่ถูกใจได้ง่ายขึ้น หลังจากที่เราใช้สมาร์ทโฟนไปสักพัก เราจะรู้จักสมาร์ทโฟนของเรามากขึ้น และเริ่มรู้ว่าเราต้องการฟังก์ชั่นการใช้งานอะไรบ้าง เมื่อซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องต่อไปก็จะสามารถเลือกรุ่นที่ตรงใจได้มากขึ้นเองครับ แล้วพบกับสาระดีๆ จาก Thaimobilecenter.com ได้ใหม่ในโอกาสหน้า สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 16/11/2564
