Xiaomi เป็นอีกหนึ่งแบรนด์สมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยสเปกที่ครบเครื่องรอบด้าน ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ซึ่งในตอนนี้ก็มีมือถือ Xiaomi รวมถึงมือถือในเครือ Xiaomi วางจำหน่ายหลายต่อหลายรุ่น แต่รุ่นไหนจะเป็นรุ่นที่ดีที่สุดในปี 2021 วันนี้เรารวบรวมความคิดเห็นจากสื่อต่างประเทศอย่าง PhoneArena มาฝากทุกท่านครับ

 

Mi 11 Ultra

จุดเด่น

• หน้าจอโค้งที่มีความสว่างสูง และสีสันจัดจ้าน
• จอลื่นระดับ 120Hz สามารถปรับค่า Refresh Rate ระดับสูงได้แม้ว่าปรับความละเอยดหน้าจอระดับสูงสุด
• ดีไซน์ตัวเครื่องเซรามิกสวยงาม
• ลำโพงคู่เสียงดังกระหึ่ม 
• สเปกแรง ความจุเยอะ
• เลนส์ Ultra Wide ที่องศาในการรับภาพกว้าง และเลนส์ซูมไกลคมชัดแบบ 5x
• ปลดล็อกลายนิ้วมือที่ฉับไว

 

จุดที่ต้องพิจารณา

• ตัวเครื่องค่อนข้างหนัก
• ภาพที่ได้จากแต่ละเลนส์มีสีสันที่แตกต่างกัน
• Dynamic Rage และ Sharpness ของภาพยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร
• ภาพ Portrait ถ่ายได้เฉพาะกล้องตัวหลักเท่านั้น
• จอจิ๋วด้านหลังที่ดูจะเป็นเพียงแค่กิมมิคเท่านั้น

 

Xiaomi Mi 11 Ultra ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีดีไซน์แปลกตาออกไป เพราะมาพร้อมกับหน้าจอจิ๋วที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ซึ่งทาง PhoneArena ระบุว่า ยังไม่ค่อยมีประโยชน์ในด้านการใช้งานจริงมากนัก แต่ก็ทดแทนด้วยดีไซน์ตัวเครื่องที่สวยงามด้วยฝาหลังแบบ Ceramic ที่ไม่ก่อให้กิดรอยขีดข่วน

ด้านสเปกภายในก็จัดเต็มมาให้สมกับฐานะสมาร์ทโฟนเรือธง ด้วยการเลือกใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 888 พร้อม RAM ขนาดสูงสุด 12GB และหน่วยความจำภายในความจุสูงสุด 512GB ส่งผลให้ Mi 11 Ultra กลายเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟน Android ที่เร็วที่สุดในปี 2021 ไปโดยปริยาย

ในส่วนของกล้องถ่ายภาพ มาพร้อมกับกล้องตัวหลักที่ใช้เซ็นเซอร์รับภาพจาก Samsung ขนาด 1/1.12 นิ้ว ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในเซ็นเซอร์กล้องมือถือที่ใหญ่ที่สุด ณ ตอนนี้ พร้อมกล้อง Ultra Wide และกล้อง Telephoto 5x ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ซึ่งกล้องซูมสามารถซูมภาพได้คมชัดระดับ 5 เท่า และซูมภาพได้ไกลถึง 120 เท่า ซึ่งถือว่าเป็นคุณสมบัติที่ค่อนข้างน่าประทับใจพอสมควร

PhoneArena ให้ข้อสรุปว่า ถ้าคุณเป็นผู้ใช้ที่ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องขนาด และน้ำหนัก Mi 11 Ultra ถือว่าเป็นมือถือ Xiaomi ที่ดีที่สุดในปีนี้เลยก็ว่าได้

 

Mi 11

จุดเด่น

• ดีไซน์สวย
• จอชัดระดับ QHD+
• Refresh Rate สูง
• สเปกครบเครื่อง

 

จุดที่ต้องพิจารณา

• กล้องไม่ได้ต่างจากรุ่นก่อนเท่าไหร่นัก
• ไม่มีกล้องเลนส์ซูม Telephoto
• แบตเตอรี่ไม่อึดเท่าที่ควร

 

Mi 11 เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีความโดดเด่นด้านหน้าจอแสดงผล ด้วยจอ OLED ขนาด 6.8 นิ้ว ที่มีค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz พร้อมความละเอียดจอระดับ QHD+ ที่ให้ความสว่างคมชัด รวมทั้งยังให้สีสันที่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าหน้าจอของ Mi 11 Ultra อีกด้วย

ทางด้านสเปกภายใน ก็จัดเต็มมาให้ไม่แพ้ Mi 11 Ultra ด้วยการเลือกใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 888 แต่จะมีการปรับเปลี่ยนในเรื่องของกล้องถ่ายภาพใหม่ โดย Mi 11 จะมาพร้อมกับกล้องตัวหลักความละเอียดระดับ 108 ล้านพิกเซลเหมือนกับที่ใช้ในรุ่น Mi 10 แต่ปรับค่ารูรับแสงใหม่เป็น f/1.9 จากเดิมที่ f/1.7 ซึ่งจะทำงานควบคู่กับกล้อง Ultra Wide และกล้อง Macro แต่ไม่มีกล้องเลนส์ซูม Telephoto ให้ใช้งานแต่อย่างใด

PhoneArena มองว่า Mi 11 เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าจับตามองเพราะราคาถูกกว่า Mi 11 Ultra พอสมควร รวมทั้งยังมีน้ำหนักที่เบากว่า แต่ยังคงให้งานดีไซน์ที่ดูพรีเมียมเช่นเคย

 

Mi 11i

จุดเด่น

• จอแจ่ม
• ใช้ชิปเซ็ต Android ที่แรงที่สุดในยุค
• ดีไซน์สวย
• ราคาเข้าถึงง่าย

 

จุดที่ต้องพิจารณา

• ไม่มีชาร์จไร้สาย
• กล้องที่ยังไม่น่าประทับใจเท่าไหร่นัก
• ไม่มีช่องหูฟัง 3.5 มม.
• สแกนลายนิ้วมือข้างเครื่อง

 

รมาต่อกันที่มือถืออีกหนึ่งรุ่นจากตระกูล Mi 11 Series อย่าง Mi 11i ที่แม้ว่าจะเป็นรุ่นเล็กแต่ก็ยังจัดเต็มด้วยการใช้ชิปเซ็ตตัวท็อปอย่าง Snapdragon 888 กับราคาวางจำหน่ายในต่างประเทศที่ราว ๆ 18,400 บาทเท่านั้น โดยนอกเหนือจากชิปเซ็ตแล้ว Mi 11i ยังชูจุดเด่นมากับหน้าจอแสดงผลที่มีความสว่าง และแสดงคอนเทนต์ได้อย่างคมชัด

ด้านกล้องถ่ายภาพ แม้ Mi 11i มาพร้อมกับกล้องตัวหลักที่มีความละเอียดสูงถึง 108 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายภาพได้อย่างเป็นธรรมชาติ แต่กล้องตัวรองอย่าง Ultra Wide กลับให้มาที่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซลเท่านั้น รวมทั้งยังให้สีสัน และคุณภาพที่ต่างไปจากกล้องตัวหลักอีกด้วย และแม้ว่า Mi 11i จะให้กล้อง Macro เพื่อช่วยถ่ายภาพระยะใกล้ก็ตาม แต่ในด้านการใช้งานจริงก็ยังถือว่าไม่น่าประทับใจเท่าไหร่นัก

 

Mi 10T Pro

จุดเด่น

• จอสวยชัด ลื่นระดับ 144Hz
• สเปกเร็วแรง
• กล้องถ่ายภาพสารพัดประโยชน์
• แบตอึด
• ตอบสนองดีเยี่ยม

 

จุดที่ต้องพิจารณา

• เสียงลำโพงในช่วง Mid และ Lower-end ยังทำได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก
• ฝาหลังที่ให้ความรู้สึกเหมือนพลาสติก และเป็นรอยนิ้วมือได้ง่าย

 

แม้ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2020 แต่ในปี 2021 Mi 10T Pro ก็ยังคงเป็นมือถือที่น่าสนใจด้วยสเปกที่แรง, ดีไซน์สวยงาม จอลื่นไหลระดับ 144Hz, แบตเตอรี่ที่อึดพอตัว, กล้องสารพัดประโยชน์ รวมถึงราคาวางจำหน่ายที่เข้าถึงได้ง่าย 

โดย Mi 10T มาพร้อมกับชิปเซ็ตระดับท็อปอย่าง Snapdragon 865 ที่รองรับการเชื่อมต่อบนเครือข่าย 5G แม้ว่าจะเร็วไม่เท่ากับชิป Snapdragon 888 แต่การใช้งานจริงก็ถือว่าเร็วแรงเทียบชั้นเลยก็ว่าได้ ด้านการถ่ายภาพ มาพร้อมกับเซ็ตอัพกล้องที่น่าสนใจด้วยกล้องตัวหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซลที่ใช้เซ็นเซอร์รับภาพจาก Samsung พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS, กล้อง Ultra Wide ที่มีมุมมองในการรับภาพกว้าง 123 องศา และกล้อง Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ที่ถือว่าเพียงพอต่อการถ่ายภาพ และถ่ายวิดีโอ

อย่างไรก็ดี สิ่งที่ทาง PhoneArena ระบุว่าต้องพิจารณานั่นก็คือ ขนาด และน้ำหนัก เพราะมาพร้อมกับตัวเครื่องที่หนักถึง 218 กรัม ซึ่งก็ถือว่าสมเหตุสมผลกับแบตเตอรี่ที่ให้มาค่อนข้างเยอะระดับ 5000mAh

 

Mi Note 10

จุดเด่น

• แบตอึด
• จอคุณภาพเยี่ยม
• กล้องสารพัดประโยชน์
• กล้องหลัง 108MP ที่เก็บรายละเอียดได้เป็นอย่างดี

 

จุดที่ต้องพิจารณา

• กล้อง 108MP ที่ถ่ายภาพได้ค่อนข้างช้า
• การแจ้งเตือนที่ไม่ค่อยแม่นยำ
• ระบบสั่นที่ยังไม่น่าประทับใจ
• หน้าจอโค้งที่อาจทำให้พิพม์ไม่สะดวก

 

Mi Note 10 ในตอนนี้ได้รับการอัปเดตด้านซอฟท์แวร์ต่าง ๆ จนทำให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมาก โดยมาพร้อมกับชิปเซ็ต Snapdragon 730G ที่แม้ว่าอาจไม่ใช่ชิปเซ็ตที่แรงที่สุด แต่ก็ไม่ได้ช้าจนน่าหงุดหงิด พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5230mAh ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องถึง 2 วันต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ส่วนสเปกด้านอื่น ๆ ก็มาพร้อมกับชุดกล้องหลังถึง 5 ตัวซึ่งสามารถสลับเลนส์การถ่ายภาพได้หลากหลายระยะ ไปจนถึงหน้าจอแบบ AMOLED ที่แสดงสีสันได้อย่างสวยงาม

 

POCO F3

 

ต่อกันที่ POCO F3 ที่ทาง PhoneArena ยกให้เป็นสมาร์ทโฟนที่คุ้มราคา ด้วยสเปกที่จัดเต็มมากับหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้วที่มีค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz พร้อมความสว่างหน้าจอระดับ 1300nits ภายในขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตประมวลผล Snapdragon 870 ที่อัปเกรดต่อยอดมาจากชิปตัวแรง Snapdragon 865+ พร้อม RAM ขนาดสูงสุด 8GB และแบตเตอรี่ขนาด 4520mAh ซึ่งจากสเปกทั้งหมดนี้สามารถให้ประสบการณ์การใช้งานระดับเรือธงโดยที่ไม่ต้องจ่ายแพง

 

POCO F2 Pro

จุดเด่น

• จอ OLED ขอบไม่โค้งคุณภาพเยี่ยม
• สเปกแรง
• ภาพนิ่งสวยงาม
• แบตอึดชาร์จไว
• 5G ในราคาเข้าถึงได้
• มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

 

จุดที่ต้องพิจารณา

• มีลำโพงแค่ตัวเดียว

 

POCO F2 Pro แม้จะตกรุ่นไปแล้วแต่ก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าจับตามองในปี 2021 ด้วยหน้าจอแสดงผล OLED แบบไร้ขอบขนาด 6.7 นิ้ว พร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 865 ประกบคู่กับ RAM ขนาดสูงสุด 8GB พร้อมหน่วยความจำภายในแบบ UFS 3.1 ความจุสูงสุด 256GB รวมถึงกล้องถ่ายภาพ 4 ตัวความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล

ทางด้านดีไซน์ก็ถือว่าน่าสนใจไม่แพ้กัน ด้วยเฟรมอะลูมิเนียมพร้อมฝาหลังเคลือบผิวสัมผัสที่ได้รับการเคลือบสวยงาม รวมทั้งยังมาพร้อมกับจุดเด่นที่น่าสนใจอย่างการรองรับ 5G รวมถึงระบบชาร์จเร็ว 30W อีกด้วย

 

Black Shark 4

ปิดท้ายด้วย Black Shark 4 สมาร์ทโฟนเกมมิ่งเจเนเรชันที่ 4 จาก Xiaomi ที่จัดเต็มทุกฟีเจอร์เพื่อเหล่าเกมเมอร์โดยเฉพาะ ด้วยปุ่มควบคุมแบบ Magnetic Pop-up Triggers พ่วงระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวแบบ Liquid Cooling System พร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 870 ประกบคู่กับหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ที่มีค่า Refresh Rate ระดับ 144Hz และระบบชาร์จเร็วแรง 120Hz

 

อย่างไรก็ดี รายชื่อด้านต้นก็เป็นเพียงความเห็นจาก PhoneArena เท่านั้น ซึ่งสมาร์ทโฟนรุ่นไหนจะดีที่สุดคงไม่สามารถตัดสินได้ เพราะส่วนหนึ่งต้องขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของผู้ใช้งานด้วย หากทดลองเล่นแล้วถูกใจ ก็ถือ่าน่าจับจองเป็นเจ้าของแล้วครับ

 

ที่มา : PhoneArena

 

วันที่ : 10/8/2564