
สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับ หากพูดถึงสมาร์ทโฟนเรือธงที่เรียกได้ว่าเป็นกระแสร้อนแรง และอยู่ในความสนใจของผู้ใช้มากที่สุดรุ่นหนึ่งในขณะนี้ คงหนีไม่พ้น Samsung Galaxy S8 และ Galaxy S8+ ที่มาพร้อมตัวเครื่องเพรียวบาง และดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์กับหน้าจอไร้ขอบ Infinity Display, เซ็นเซอร์สแกนม่านตา (Iris Scanner) หรือฟีเจอร์ป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 ซึ่งนอกจากฟีเจอร์ และคุณสมบัติตัวเครื่องจะมีความน่าสนใจเป็นอย่างมากแล้ว อุปกรณ์เสริมหลายรายการที่เปิดตัวออกมาพร้อมกับ Samsung Galaxy S8 ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะ DeX Station อุปกรณ์เสริมสุดพิเศษที่สามารถเปลี่ยนร่าง Samsung Galaxy S8 ให้เป็นคอมพิวเตอร์ได้ทุกที่ทุกเวลา
DeX Station เป็นอุปกรณ์เสริมแบบใหม่ที่สามารถเปลี่ยนให้ Samsung Galaxy S8 ทำหน้าที่เป็นคอมพิวเตอร์ PC ได้ทันทีเพียงเชื่อมต่อสายเข้ากับหน้าจอเท่านั้น ซึ่งลักษณะการใช้งานของ DeX Station ก็จะช่วยให้ผู้ใช้ Galaxy S8 มีความสะดวกในการทำงานมากขึ้น และอาจไม่ต้องพกพา Laptop อีกต่อไป โดย DeX Station จะมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร การใช้งานทั่วไปสามารถทำอะไรได้บ้าง วันนี้ทีมงาน Thaimobilecenter จึงจะพาทุกท่านไปรับชม รีวิว (Review) DeX Station สำหรับ Samsung Galaxy S8 กันว่าอุปกรณ์เสริมสุดล้ำชิ้นนี้จะมีความพิเศษอย่างไร สามารถทำให้ Samsung Galaxy S8 เป็นมากกว่าสมาร์ทโฟนได้ในรูปแบบใดบ้าง ติดตามชมไปพร้อมกันได้เลยครับ
ลักษณะภายนอก และการเชื่อมต่อ DeX Station

DeX Station จะมีลักษณะเป็นรูปทรงกลม ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป สามารถพกพาติดตัวได้อย่างสะดวก


เวลาที่ไม่ได้ใช้งาน DeX Station ตัวฝาด้านบนจะปิดอยู่ แต่ถ้าหากจะเปิดใช้งานให้ใช้นิ้วดันฝาขึ้นด้านบน แล้วจะพบกับแท่นเชื่อมต่อ USB Type-C อยู่ภายในสำหรับเชื่อมต่อกับ Samsung Galaxy S8 หรือ S8+



สำหรับช่องเชื่อมต่อทั้งหมดที่อยู่บน DeX Station ประกอบไปด้วย ช่องเชื่อมต่อ USB Type-C สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่, ช่องเชื่อมต่อ HDMI สำหรับส่งภาพ และเสียงขึ้นบนหน้าจอแสดงผล, ช่องเชื่อมต่อ Ethernet สำหรับใช้งานอินเทอร์เน็ตด้วยสาย LAN และช่องเชื่อมต่อ USB จำนวน 2 ช่อง สำหรับเชื่อมต่อคีย์บอร์ด และเมาส์

วิธีการใช้งานหลักๆ ก็เพียงแค่ผู้ใช้ต้องเชื่อมต่อสาย และอุปกรณ์ เช่น เมาส์ และคีย์บอร์ดทั้งหมดเข้ากับ DeX Station ให้เรียบร้อย จากนั้นนำ Samsung Galaxy S8 หรือ S8+ มาเชื่อมต่อเข้ากับ DeX Station บนแท่นวาง และตัวเครื่องก็จะเข้าสู่การแสดงผลในโหมด DeX โดยอัตโนมัติ


ส่วนท่านใดที่ตั้งค่าความปลอดภัยในการเข้าใชตัวเครื่องด้วยเซ็นเซอร์สแกนม่านตา (Iris Scanner) ก่อนที่ Dex จะเปิดให้เข้าใช้งานก็จะมีให้เลือกด้วยว่า จะเข้าใช้งานด้วยการใส่รหัสผ่าน หรือสแกนม่านตา เพื่อป้องกันผู้ไม่หวังดีมาแอบลักลอบเข้าใช้ตัวเครื่องของเรานั่นเอง
เริ่มต้นใช้งานกับ DeX Station สำหรับ Samsung Galaxy S8

เมื่อเชื่อมต่อ Samsung Galaxy S8 หรือ S8+ เข้ากับ DeX Station เรียบร้อยแล้ว ก็จะเข้าสู่หน้าจอโฮม โดยจะมีขั้นตอนให้ผู้ใช้ยืนยันตัวตนด้วยการใส่รหัสผ่านที่ตั้งไว้ในตัวเครื่อง หรือสแกนม่านตาผ่านทางสมาร์ทโฟน

หลังจากยืนยันตัวตนเสร็จสิ้น เราก็จะเข้ามาสู่หน้าจอ Desktop ที่มีการจัดเรียงไอคอนแอปพลิเคชันบางโปรแกรมไว้บ้างแล้ว ซึ่งถ้าหากผู้ใช้คลิกเมาส์ด้านขวา ก็จะพบกับหน้าต่างเมนูย่อยต่างๆ ขึ้นมาคล้ายกับคอมพิวเตอร์ด้วย

Samsung DeX มีภาพพื้นหลังให้เลือกทั้งแบบภาพ Official หรือสามารถเลือกจาก Gallery ในตัวเครื่องก็ได้เช่นกัน

สลับมาดูทางด้านขวาล่างกันบ้าง โดยแถบด้านขวาล่างจะเป็นแถบสถานะต่างๆ เช่น แบตเตอรี่, การเชื่อมต่อ ฯลฯ โดยแถบ Notification จะใช้เครื่องหมายจุด 3 จุด ซึ่งเมื่อกดเข้าไปแล้วก็จะเป็นการแสดงผลการแจ้งเตือนต่างๆ แบบเดียวกับบนสมาร์ทโฟน

ส่วนการตั้งค่าแบบ Quick Setting จะอยู่ที่เครื่องหมายสามเหลี่ยมคว่ำ เมื่อกดเข้าไปก็จะเป็นเมนูการตั้งค่าฟังก์ชันต่างๆ ซึ่งเราสามารถ เปิด-ปิด ได้ทันที

สำหรับแถบเมนูทางด้านซ้ายก็คือ ปุ่ม App Drawer, ปุ่ม Recent Apps และ ปุ่มโฮม โดยวิธีการใช้งานจะเหมือนกับสมาร์ทโฟนทุกอย่าง เช่น เมื่อกดปุ่ม Recent Apps ก็จะแสดงรายการแอปพลิเคชันที่เปิดในขณะนั้น เป็นต้น


เมนูในแอปพลิเคชันการตั้งค่าก็สามารถใช้งานได้ในหน้าจอที่คมชัด และใหญ่เต็มตามากยิ่งขึ้น โดยเครื่อง Samsung Galaxy S8 ที่ทดสอบในรีวิวฉบับนี้ ใช้งานระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat และ Samsung Experience 8.1

แอปพลิเคชัน Email ก็สามารถใช้งานสำหรับการเช็คอีเมลต่างๆ ได้สะดวกขึ้น เพราะลักษณะการแสดงผลอยู่ในรูปแบบการใช้งานของ Desktop ที่ลดขั้นตอนการเข้าสู่เนื้อหาไปได้ในระดับหนึ่ง

หากผู้ใช้ต้องการใช้งานแอปพลิเคชันอื่นๆ เพิ่มเติมก็สามารถเข้าสู่ Play Store เพื่อดาวน์โหลดได้ทันที ซึ่งแอปพลิเคชัน Play Store รองรับการแสดงผลแบบเต็มหน้าจอด้วย สำหรับแอปพลิเคชันที่รองรับการแสดงผลเต็มหน้าจอยังมีจำนวนจำกัดในขณะนี้ คาดว่าเป็นเพราะผู้พัฒนาแอปพลิเคชันดังกล่าวยังไม่ปล่อยตัวอัปเดตเวอร์ชันใหม่ออกมาเพื่อรองรับ Galaxy S8 แต่คาดว่าในอนาคตจะเริ่มมีการทยอยอัปเดตอย่างต่อเนื่อง




แอปพลิเคชันอย่าง Youtube ก็เป็นอีกโปรแกรมหนึ่งที่รองรับการแสดงผลแบบเต็มหน้าจอเช่นกัน โดยสามารถปรับความละเอียดระดับสูงสุดได้ที่ Full HD 1080p เท่านั้น ส่วนการปิดคลิปวิดีโอต้องทำในลักษณะเดียวกับการใช้งานบนสมาร์ทโฟน คือ ต้องเลื่อนไปทางด้านซ้ายเพื่อปิด

นอกจาก DeX Station จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการใช้งานด้านความบันเทิงแล้ว เรื่องการทำงาน เช่น การพิมพ์งาน หรือสร้าง Presentation ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน โดยผู้ใช้สามารถพิมพ์เนื้อหา หรือสร้างไฟล์งานได้แบบเดียวกับคอมพิวเตอร์ PC อีกด้วย


ส่วนผู้ใช้ท่านใดที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ และการตกแต่งภาพ แอปพลิเคชัน Adobe Lightroom ก็รองรับการใช้งานแบบ Full Screen ช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องการตกแต่งภาพถ่ายให้มากยิ่งขึ้น

ด้วยหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB ของ Samsung Galaxy S8 ทำให้การใช้งานทั่วไปมีความลื่นไหล และเมื่อเชื่อมต่อกับ DeX Station ก็สามารถเปิดใช้งานแอปพลิเคชันหลายโปรแกรมพร้อมกันได้ โดยไม่มีการหน่วงช้า หรือค้างให้เห็นแต่อย่างใด



นอกจากนี้ ขณะที่ผู้ใช้กำลังใช้งาน DeX Mode อยู่นั้น ก็ยังสามารถใช้งานฟังก์ชันกล้องถ่ายภาพ หรือการ Video Call กับผู้อื่นได้ด้วย แต่อาจไม่สะดวกนักเพราะตัวเครื่องยังต้องเชื่อมต่อกับ DeX Station ทำให้ไม่สามารถยกขึ้นมาถ่ายได้อย่างอิสระ แต่เหมาะสำหรับการรับสายในขณะที่เรากำลังใช้งาน Samsung Galaxy S8 ใน DeX Mode โดยไม่ต้องถอดตัวเครื่องออก


และสำหรับการเล่นเกมบน DeX Mode ก็ทำได้เช่นเดียวกัน แต่การเล่นเกมส์ด้วยเมาส์ และคีย์บอร์ด ยังรองรับเพียงบางเกมเท่านั้น และส่วนใหญ่จะไม่รองรับการแสดงผลแบบ Full Screen อีกทั้งการควบคุมเกือบทั้งหมดจะใช้งานร่วมกับเมาส์ได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

ส่วนการแคปเจอร์ภาพบนหน้าจอก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่กดปุ่ม Print Screen บนคีย์บอร์ดเท่านั้น ภาพที่แคปเจอร์ไว้ก็จะถูกบันทึกลงใน Galaxy S8 โดยอัตโนมัติ
สรุปการใช้งาน DeX Station ร่วมกับ Samsung Galaxy S8

จากการทดสอบใช้งาน DeX Station ร่วมกับ Samsung Galaxy S8 มาได้ระยะหนึ่ง ก็พบว่า DeX Station สามารถอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ชื่นชอบการพกพาสิ่งของน้อยชิ้น แต่ใช้งานได้เต็มความสามารถ เพราะ DeX Station มีขนาดเล็ก พกพาสะดวก และสามารถใช้งานทดแทนคอมพิวเตอร์ PC ได้ในบางกรณี เช่น การแก้ไฟล์งานแบบเร่งด่วนในกรณีที่คอมพิวเตอร์เสียหาย เป็นต้น ซึ่งโปรแกรมบางอย่างใน Windows ก็มีการปรับให้ใช้งานในลักษณะแอปพลิเคชันเช่นเดียวกัน ทำให้ผู้ที่มี Samsung Galaxy S8 และ DeX Station อาจไม่ต้องซื้อ Laptop มาใช้เพิ่มเติมด้วย แต่สำหรับการใช้งานอาจยังมีข้อจำกัดอยู่บ้าง เพราะสถานที่ที่จะใช้งาน DeX Station ต้องมีหน้าจอแสดงผลที่รองรับพอร์ตเชื่อมต่อ HDMI และต้องมีเมาส์ไว้ใช้งานด้วย (ไม่มีคีย์บอร์ดได้)
สำหรับแอปพลิเคชันจำเป็นอย่าง Microsoft Office เช่น Microsoft Word หรือ Microsoft PowerPoint ก็มีให้ดาวน์โหลดใน Play Store และผู้ใช้สามารถแก้ไขชิ้นงาน หรือสร้างไฟล์งานขึ้นมาได้ทันที โดยไม่ต้องพึ่งพาคอมพิวเตอร์แม้แต่น้อย แต่ผู้ใช้อาจจะต้อง Subscribe เป็นสมาชิกของ Microsoft 365 เสียก่อนจึงจะสามารถใช้งานทุกฟังก์ชันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ส่วนการใช้งานในด้านความบันเทิงอย่างการรับชมวิดีโอนั้นถือว่าค่อนข้างตอบโจทย์เป็นอย่างมาก เพราะแอปพลิเคชันอย่าง Youtube รองรับการแสดงผลแบบ Full Screen และในอนาคตอันใกล้นี้คาดว่าแอปพลิเคชัน Streaming หลายๆ แบรนด์เช่น Netflix หรือ iflix จะออกอัปเดตมารองรับการใช้งาน DeX Station ด้วย ขณะที่การเล่นเกมบน DeX Station ยังไม่รองรับอย่างสมบูรณ์ เพราะต้องมีการอัปเดตให้ใช้งานร่วมกับเมาส์ และคีย์บอร์ด รวมถึงการแสดงผลแบบ Full Screen ด้วย แต่คาดว่าเมื่อ Samsung Galaxy S8 เริ่มวางจำหน่ายได้สักระยะ บรรดาผู้พัฒนาแอปพลิเคชันจะทยอยออกอัปเดตเพิ่มเติมอย่างแน่นอน
สรุปการใช้งาน DeX Station ในภาพรวมทั้งหมด ทั้งการใช้งานด้านองค์กร และความบันเทิง น่าจะตอบโจทย์สำหรับกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และกลุ่มผู้ใช้วัยทำงานได้เป็นอย่างดี เพราะฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ สามารถทดแทนคอมพิวเตอร์ Laptop ได้แทบจะทั้งหมด ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องสะพายกระเป๋าคอมพิวเตอร์หนักๆ อีกต่อไป และยังสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกเพียงแค่มีหน้าจอแสดงผล และเมาส์เท่านั้น โดย DeX Station มีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 3,900 บาท และจะวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2560 เป็นต้นไป ที่ศูนย์บริการ Samsung และตัวแทนจำหน่ายทุกสาขา
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Samsung Galaxy S8
พรีวิว (Preview) Samsung Galaxy S8
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 28/4/60
|