เปรียบเทียบ iPhone 6s กับ iPhone 6 ต่างกันอย่างไร รุ่นใหม่ดีกว่าเดิมแค่ไหน วันนี้เรามีคำตอบ!

หลังจาก iPhone 6s และ iPhone 6s Plus เปิดตัวไปเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา (เที่ยงคืนของวันที่ 10 กันยายนตามเวลาในประเทศไทย) และเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในบ้านเราไปแล้วเมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา ผู้คนส่วนใหญ่ก็ยังคงมีข้อสงสัยกันว่า iPhone 6s รุ่นใหม่นี้มีความแตกต่างไปจาก iPhone 6 ตรงจุดไหนบ้าง และมีฟีเจอร์ที่ดีขึ้นกว่าเดิมอย่างไร รวมถึงคุ้มค่าที่จะเปลี่ยนเป็น iPhone 6s หรือไม่ วันนี้ทีมงาน Thaimobilecenter จะมาไขข้องใจด้วยการสรุปข้อมูลความแตกต่างระหว่าง iPhone 6s และ iPhone 6 ในแต่ละส่วนแบบละเอียดมาให้ทุกท่านได้รับชมกัน จะมีอะไรบ้างนั้น ติดตามชมไปพร้อมกันได้เลยครับ

เปรียบเทียบขนาดตัวเครื่องของ iPhone 6s กับ iPhone 6

เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว iPhone 6s จะมีความหนา และน้ำหนักที่มากกว่า iPhone 6 อยู่เล็กน้อย เนื่องจาก iPhone 6s ใช้วัสดุอย่าง Aluminium-7000 เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับตัวเครื่อง หลังจาก iPhone 6 มีปัญหาเรื่องตัวเครื่องหักงอได้ง่าย

เปรียบเทียบจอแสดงผลของ iPhone 6s กับ iPhone 6

จอแสดงผลของ iPhone 6s ยังคงใช้จอภาพ Retina HD ที่มีความคมชัด และขนาดของหน้าจอยังคงเหมือนเดิม โดยมีขนาดอยู่ที่ 4.7 นิ้ว สำหรับ iPhone 6s และขนาด 5.5 นิ้ว สำหรับ iPhone 6s Plus แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาก็คือฟีเจอร์ 3D Touch ที่สามารถตรวจวัดน้ำหนักของการกดนิ้วลงบนหน้าจอได้ ซึ่งฟีเจอร์ดังกล่าวจะช่วยให้การใช้งานมีความหลากหลาย และควบคุมได้ง่ายมากยิ่งขึ้น โดยมาพร้อมฟังก์ชันการใช้งาน Peek & Pop ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูตัวอย่างเนื้อหาคร่าวๆ ก่อนได้ โดยไม่ต้องเปิดแอปพลิเคชันขึ้นมา หรือจะเป็นการใช้งานทางลัดเข้าสู่การทำงานต่างๆ ของแอปด้วยขั้นตอนที่ลดน้อยลง

ฟีเจอร์ 3D Touch ใช้งานด้วยระบบ Taptic Engine ที่ตอบสนองต่อแรงกดบนหน้าจอด้วยการสั่นเบาๆ ตามน้ำหนักที่กดลงไป ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้ทราบว่ากำลังกดด้วยน้ำหนักเท่าไหร่ โดยแต่เดิมระบบดังกล่าวมีใช้งานเฉพาะอุปกรณ์ Apple Watch เท่านั้น

เปรียบเทียบหน่วยประมวลผลของ iPhone 6s กับ iPhone 6

iPhone 6s ใช้ชิปเซ็ตรุ่นใหม่อย่าง Apple A9 ที่มาพร้อมกับสถาปัตยกรรมแบบ 64-bit ที่พัฒนาประสิทธิภาพการประมวลผลของซีพียูได้เร็วขึ้นถึง 70% และการประมวลผลกราฟิกเร็วขึ้นถึง 90% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าอย่างชิปเซ็ต Apple A8

นอกจากนี้ชิปเซ็ต Apple A9 ยังทำงานร่วมกับชิป M9 Co-Processor ที่ประมวลผลการเคลื่อนไหวได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น และช่วยให้การทำงานของ Siri มีความรวดเร็ว และแม่นยำเพิ่มขึ้นอีกด้วย

เปรียบเทียบระบบการเชื่อมต่อของ iPhone 6s กับ iPhone 6

iPhone 6s พัฒนาระบบการเชื่อมต่อสัญญาณแบบไร้สายให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยสามารถรองรับการใช้งาน 4G LTE ได้สูงสุดถึง 23 คลื่นความถี่ บนความเร็วสูงสุด 300 Mbps ส่วนการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi รองรับความเร็วสูงสุดที่ 866 Mbps และมาพร้อมกับเทคโนโลยี Bluetooth 4.2

เปรียบเทียบกล้องดิจิทัล iSight ของ iPhone 6s กับ iPhone 6

กล้องถ่ายภาพบน iPhone 6s ได้รับการพัฒนาใหม่ทั้งหมด โดยเพิ่มความละเอียดเป็น 12 ล้านพิกเซล จากเดิม 8 ล้านพิกเซล ด้วยพิกเซลขนาด 1.22µ (ไมครอน) พร้อมด้วยฟีเจอร์ใหม่ Live Photos ที่ก้าวข้ามการถ่ายภาพนิ่งแบบเดิมๆ ไปเป็นการบันทึกภาพไว้ในรูปแบบของภาพเคลื่อนไหวสั้นๆ ให้กลายเป็นความทรงจำที่มีชีวิต

ส่วนฟังก์ชันการถ่ายวิดีโอก็ได้รับการพัฒนาให้รองรับความละเอียดระดับ 4K ที่เฟรมเรต 30 fps และรองรับการถ่ายวิดีโอ Slow Motion ความละเอียด 1080p ที่เฟรมเรต 120 fps และความละเอียด 720p ที่เฟรมเรต 240 fps

เปรียบเทียบกล้อง FaceTime HD ของ iPhone 6s กับ iPhone 6

นอกจากการพัฒนากล้อง iSight ด้านหลังแล้ว กล้องด้านหน้าก็ได้รับการพัฒนาใหม่หมดเช่นเดียวกัน โดยเพิ่มความละเอียดเป็น 5 ล้านพิกเซล จากเดิม 1.2 ล้านพิกเซล และมาพร้อมกับไฟแฟลชสำหรับกล้องหน้าแบบ Retina Flash ซึ่งใช้งานด้วยการเปลี่ยนหน้าจอ Retina ให้เป็นไฟแฟลช โดยมีความสว่างถึง 3 ระดับ เพื่อให้ได้ภาพที่ดูสมจริงมากที่สุด

เปรียบเทียบระบบ Touch ID ของ iPhone 6s กับ iPhone 6

ระบบรักษาความปลอดภัยด้วยการสแกนลายนิ้วมือหรือที่เรียกกันว่า Touch ID ได้รับการพัฒนาเป็นรุ่นที่สอง (2nd Generation) โดยมาพร้อมกับความแม่นยำ และความรวดเร็วในการสแกนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งระบบ Touch ID ที่ได้รับการปรับปรุงนี้คาดว่าทาง Apple เตรียมไว้สำหรับรองรับการใช้งาน Apple Pay ให้มีความปลอดภัยสูงที่สุด

เปรียบเทียบพลังงาน และแบตเตอรี่ของ iPhone 6s กับ iPhone 6

แม้ว่าความจุแบตเตอรี่ของ iPhone 6s ยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าจะมีขนาดเท่าไหร่ แต่จากข่าวล่าสุดเผยรายละเอียดว่า iPhone 6s จะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 1715 mAh (รายละเอียดเพิ่มเติม - คลิก) พร้อมกับฟังก์ชันการประหยัดพลังงานที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นกว่าเดิม

เปรียบเทียบความจุของ iPhone 6s กับ iPhone 6

iPhone 6s มีหน่วยความจำให้เลือก 3 รุ่น คือ 16GB, 64GB และ 128GB ซึ่งเมื่อทาง Apple เปิดตัว iPhone 6s เรียบร้อยแล้ว ในวันต่อมาก็ทำการถอดผลิตภัณฑ์ iPhone 6 รุ่นหน่วยความจำ 128GB ออกทันที ดังนั้นหากใครต้องการ iPhone รุ่น 128GB คงต้องรอจนถึงช่วงปลายปีที่ iPhone 6s จะเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย

เปรียบเทียบสีตัวเครื่องของ iPhone 6s กับ iPhone 6

iPhone 6s และ iPhone 6s Plus จะมาในสีใหม่คือ สีชมพู Rose Gold รวมทั้งหมดเป็น 4 สี คือ สีชมพู Rose Gold, สีทอง, สีเงิน และสีเทา Space Gray ส่วนรุ่นเก่าอย่าง iPhone 6 และ iPhone 6 Plus เหลือให้เลือกเพียง 2 สีเท่านั้น คือ สีเงิน และสีเทา Space Gray เนื่องจากทาง Apple ได้ถอด iPhone รุ่นสีทองทั้งหมดออกจากการจำหน่ายเรียบร้อยแล้ว

เปรียบเทียบราคาของ iPhone 6s กับ iPhone 6

แม้ว่า iPhone 6s จะพัฒนาคุณสมบัติ และฟีเจอร์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมามากมาย ทำให้หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า iPhone 6s อาจปรับราคาเปิดตัวขึ้นสูงกว่ารุ่นเก่า แต่ก็ต้องผิดคาดเพราะว่า iPhone 6s และ iPhone 6s Plus เปิดตัวมาในราคาเดียวกันกับตอนเปิดตัว iPhone 6 ซึ่งราคาวางจำหน่ายในประเทศไทยยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าจะมีราคา ดังนี้

- iPhone 6s รุ่น 16GB ราคา 24,900 บาท
- iPhone 6s รุ่น 64GB ราคา 28,900 บาท
- iPhone 6s รุ่น 128GB ราคา 32,900 บาท
- iPhone 6s Plus รุ่น 16GB ราคา 28,900 บาท
- iPhone 6s Plus รุ่น 64GB ราคา 32,900 บาท
- iPhone 6s Plus รุ่น 128GB ราคา 36,900 บาท

สรุปความแตกต่างของ iPhone 6s กับ iPhone 6

ข้อแตกต่างระหว่าง iPhone 6s และ iPhone 6 โดยรวมน่าจะอยู่ที่คุณสมบัติ และฟีเจอร์ใหม่ๆ ของตัวเครื่องที่ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมทั้งเรื่องของชิปเซ็ต, จอแสดงผล, กล้อง ฯลฯ แต่ถ้าหากพิจารณาอย่างละเอียดแล้ว iPhone 6 ก็ยังถือว่ามีประสิทธิภาพที่คุ้มค่าสำหรับการใช้งานอยู่ จะมีข้อเสียเปรียบก็เพียงแค่ ไม่มีรุ่นหน่วยความจำ 128GB และรุ่นสีทอง วางจำหน่ายอีกต่อไป แต่ข้อได้เปรียบคือ Apple ปรับลดราคา iPhone ทุกรุ่นเพื่อต้อนรับ iPhone รุ่นใหม่ (รายละเอียดเพิ่มเติม - คลิก) หากท่านใดสนใจ iPhone ที่มีรุ่น 128GB และรุ่นสีทอง คงต้องรอจนถึง เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ iPhone 6s และ iPhone 6s Plus จะเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม ความคุ้มค่าของการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนสักหนึ่งเครื่องขึ้นอยู่กับผู้ใช้เป็นสำคัญ เพราะมีปัจจัยหลายอย่างทั้ง พฤติกรรมการใช้งาน, ดีไซน์ หรือราคา ที่ส่งผลต่อการเลือกซื้อทั้งสิ้น แต่ถ้าหากสมาร์ทโฟนเครื่องใดมีฟังก์ชันที่ตรงตามต้องการ และไม่มีปัญหาเรื่องราคา ก็ถือว่าสมาร์ทโฟนเครื่องนั้นคุ้มค่าต่อการเป็นเจ้าของแล้วล่ะครับ สำหรับวันนี้ทีมงาน Thaimobilecenter ขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ

ขอบคุณภาพประกอบจาก  Apple (Thailand)