สำหรับอุปกรณ์สวมใส่อย่าง Wearable Devices หรือ SmartWatch ปัจจุบันกำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถทำอะไรได้มากกว่านาฬิกาทั่วไป แถมยังสามารถเชื่อมต่อเพื่อส่งผ่านข้อมูลต่างๆ ไปแสดงผลบนสมาร์ทโฟนได้ เรียกได้ว่า ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก จึงไม่แปลกที่ถูกให้คำจำกัดความว่า "นาฬิกาอัจฉริยะ" ซึ่งในวันนี้ทางทีมงานไทยโมบายเซ็นเตอร์ก็มีนาฬิกาอัจฉริยะอยู่หนึ่งรุ่นที่อยากจะนำมารีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน นั่นคือนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุดนามว่า Wellograph
สำหรับนาฬิกา Wellograph จะมีจุดเด่นในเรื่องของการออกแบบดีไซน์ที่สวยหรูไม่เหมือนใคร กับวัสดุระดับพรีเมียม ทั้งกระจกหน้าจอแซฟไฟร์ และบอดี้โลหะที่สามารถกันน้ำได้ พร้อมฟังก์ชันมากมายที่จะช่วยในเรื่องของการออกกำลังกาย และการดูแลสุขภาพ เช่น การนับก้าวเดิน, การตรวจสอบการนอนหลับ หรือการจับเวลาขณะวิ่ง และที่พิเศษไปกว่านั้น คือ มีเซ็นเซอร์สำหรับตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจในตัวอีกด้วย บอกได้เลยว่า ต้องถูกอกถูกใจคนรักการออกกำลังกาย กับคนที่รักการดูแลสุขภาพอย่างแน่นอน และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ไปชมพร้อมกันดีกว่าว่า นาฬิกา Wellograph จะมีฟังก์ชันอะไรให้ใช้งานบ้าง ดีไซน์การออกแบบเป็นอย่างไร ราคาเท่าไหร่ และเหมาะกับผู้ใช้งานแบบไหน ขอเชิญทุกท่าน ไปชมรีวิวพร้อมกันได้เลยครับ
ดีไซน์ ตัวเครื่อง และการออกแบบ

นาฬิกา Wellograph จะมาในกล่องแพ็กเกจสีดำรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส

ด้านข้างกล่องมีการระบุฟังก์ชันที่น่าสนใจบนนาฬิกา Wellograph เช่น มีฟังก์ชันการวัดอัตราการเผาผลาญ, มีเซ็นเซอร์การวัดการเต้นของหัวใจ และมีฟังก์ชันที่ใช้ควบคู่กับการวิ่ง

ส่วนด้านใต้กล่องจะระบุไว้ว่านาฬิกา Wellograph สามารถใช้งานร่วมกับระบบปฏิบัติการทั้ง 3 แบบ ได้ ทั้ง iOS, Android และ Windows Phone

ซึ่งภายในกล่องก็จะมีอุปกรณ์ต่างๆ มาให้ครบ ไม่ว่าจะเป็น คู่มือการใช้งาน, สายชาร์จแบตเตอรี่แบบ microUSB และ Adapter

สำหรับนาฬิกา Wellograph จะมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ Low-Power LCD Backlight ขนาด 1.26 นิ้ว ซึ่งจะเป็นกระจก Sapphire ที่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี ส่วนตัวเครื่องจะมีขนาดอยู่ที่ 42x33x12.5 มิลลิเมตร กับน้ำหนัก 55 กรัม

ด้านขวาของตัวเครื่อง : จะมีปุ่มการทำงาน 2 อย่าง ได้แก่ ปุ่มด้านบนจะทำหน้าที่เป็นปุ่ม ตกลง ส่วนปุ่มด้านล่างจะทำหน้าที่เลื่อนลง

ด้านใต้ของตัวเครื่อง : จะประกอบไปด้วย เซ็นเซอร์สำหรับวัดอัตราการเต้นของหัวใจ 3 ตัว (Tri-LED HR Sensor) และพอร์ตสำหรับเชื่อมต่อกับฐานเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งภายในตัวเครื่องจะมีแบตเตอรี่ขนาด 210 mAh ที่สามารถใช้งานได้นาน 7 วัน ต่อการชาร์จแบตเตอรี่หนึ่งครั้ง

สำหรับนาฬิกา Wellograph ได้รับการรับรองมาตรฐานการกันน้ำ 5 ATM ซึ่งสามารถกันน้ำได้ลึกสุด 50 เมตร

ส่วนกรอบตัวเครื่องจะทำมาจากอะลูมิเนียม จึงทำให้นาฬิกา Wellograph มีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ

มาต่อกันที่สายรัดข้อมือกันบ้าง ที่ทำมาจากหนังแท้สีขาวที่มีความนุ่ม และสามารถให้ตัวได้ดี

ส่วนตัวล็อกสายรัดข้อมือจะเป็นแบบขาล็อกเดี่ยว ซึ่งก็สามารถล็อกได้แน่นหนา ไม่หลุดออกจากกันง่ายๆ
เปิดเครื่องใช้งาน และทดสอบฟังก์ชันต่างๆ

โดยนาฬิกา Wellograph จะมีฟังก์ชันให้ใช้งานหลักๆ ทั้งหมด 4 ฟังก์ชันด้วยกัน ได้แก่ หน้าที่แสดงนาฬิกาฟังก์ชันตรวจสอบการเคลื่อนไหว, ฟังก์ชันการนั่ง หรือการตรวจสอบการไม่เคลื่อนไหว, ฟังก์ชันการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, ฟังก์ชันการตรวจสอบการนอนหลับ และฟังก์ชันจับเวลา กับระยะทางขณะวิ่ง

มาเริ่มกันที่ฟังก์ชันตรวจสอบการเคลื่อนไหว (Move) ซึ่งจะมีการแสดงผลหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การนับจำนวนก้าวเดิน, ระยะเวลาในการเคลื่อนไหว หรือก้าวเดิน

ระยะทางที่เคลื่อนไหวในแต่ละวัน, การเคลื่อนไหวทั้งหมดกี่นาที, นิ่งเฉยกี่นาที

อัตราการเผาผลาญ/ชั่วโมง, อัตราการเผาผลาญในแต่ละวัน

จำนวนก้าวเดินทั้งหมดตลอดสัปดาห์ และจำนวนก้าวเดินเฉลี่ย

ส่วนฟังก์ชันการนั่ง (Sit) หรือการตรวจสอบการไม่เคลื่อนไหว จะทำการแสดงเวลาเป็นนาทีในการนั่ง หรืออยู่นิ่งๆ ในแต่ละครั้ง, แสดงจำนวนการนั่ง หรืออยู่นิ่งๆ ใน 1 วัน อีกทั้งยังแสดงการนั่ง หรืออยู่นิ่งๆ, แสดงการนั่ง หรืออยู่นิ่งๆ กี่นาที/ชั่วโมง (ถ้านั่งนิ่งๆ เป็นเวลา 30 นาที เจ้านาฬิกา Wellograph จะส่งเสียงปิ๊บ 1 ครั้ง เพื่อให้เราได้ลุก เดิน หรือขยับร่างกาย เพราะการนั่งนิ่งๆ นานๆ จะไม่ส่งผลดีต่อร่างกายนั่นเอง)

นอกจากนี้ ยังแสดงผลของการนั่งแบบเฉลี่ยใน 1 วัน/สัปดาห์ กับแสดงเวลาการนั่งทั้งหมดตลอด 1 สัปดาห์

ฟังก์ชันต่อมา คือ ฟังก์ชันการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ จะสามารถแสดงฟังก์ชันได้หลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การแสดงอัตราการเต้นของหัวใจแบบเรียลไทม์ ซึ่งข้อดี คือ เวลาออกกำลัง คุณจะสามารถควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจให้อยู่ในโซนที่ต้องการได้

สามารถแสดงอัตราการเต้นของหัวใจแบบเฉลี่ยได้, สามารถแสดงอัตราการเต้นของหัวใจแบบสูงสุดกับต่ำสุดได้

สามารถแสดงเปอร์เซ็นต์ไทล์ได้, สามารถเทียบความฟิตเท่ากับอายุได้

ส่วนในหน้า READNESS จะเป็นการแสดงกราฟว่าเราควรออกกำลังกาย หรือควรจะพักผ่อน โดยให้สังเกตบนกราฟ ถ้าขีดลดไปทางด้านซ้ายแปลว่าคุณควรพักผ่อน แต่ถ้าขีดไปทางขวามากกว่าแปลว่าคุณสามารถออกกำลังกายได้

มาต่อกันที่ฟังก์ชันการตรวจสอบการนอนหลับ (Sleep) จะสามารถแสดงชั่วโมงการนอนในคืนที่ผ่านมาได้

สามารถแสดงกราฟรายละเอียดการนอน 4 แบบหลักๆ คือ Awake (รูปดวงตา) จะแสดงรายละเอียดการนอนของคุณมีการตื่นหรือไม่, D = จะแสดงรายละเอียดการนอนของคุณมีการฝันหรือไม่, Z = จะแสดงรายละเอียดว่าการนอนของคุณมีการขยับตัวหรือไม่, ZZ จะแสดงรายละเอียดว่าคุณนอนหลับสนิทหรือไม่ แถมยังสามารถแสดงเปอร์เซ็นต์การนอนในแต่ละครั้งได้

นอกจากนี้ ยังสามารถแสดงกราฟการนอนของทั้งหมดของแต่ละสัปดาห์ได้อีกด้วย ซี่งรวมถึงเวลาการนอนแบบเฉลี่ย และเปอร์เซ็นต์การนอนของแต่ละวันในสัปดาห์ที่ผ่านมา


และฟังก์ชันสุดท้าย คือ ฟังก์ชันจับเวลา กับวัดระยะทางขณะวิ่ง โดยตัวนาฬิกา Wellograph จะทำการคำนวนระยะทางจากการนับก้าว (นาฬิกา Wellograph ไม่มี GPS ในตัว) ซึ่งนอกจากจะจับเวลา กับบอกระยะทางได้แล้ว นาฬิกา Wellograph ยังสามารถคำนวณอัตราการเผาผลาญแคลอรี่ได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น การเชื่อมต่อบลูทูธเพื่อซิงค์ข้อมูล

ตั้งค่าให้นาฬิกา Wellograph แสดงการทำงานเป็นเพียงนาฬิกาอย่างเดียว

สามารถปรับค่าเพื่อใช้งานให้เหมาะกับมือซ้าย หรือมือขวาได้

สามารถตั้งค่าเซ็นเซอร์การนับก้าวเดินได้ 2 แบบ คือ ปานกลาง กับ สูงสุด

สามารถใส่ข้อมูลส่วนตัวได้ เพื่อให้การวัดค่าต่างๆ เหมาะสมกับผู้ใช้มากที่สุด

สามารถเลือกหน้าตานาฬิกาได้หลายแบบ เช่น แบบดิจิทัล หรือแบบแอนาล็อค เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังสามารถคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้อีกด้วย
เชื่อมต่อนาฬิกา Wellograph กับสมาร์ทโฟน
 
โดยคุณสามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับนาฬิกา Wellograph ได้ผ่านการเชื่อมต่อผ่านบลูทูธ หลังจากนั้นให้ทำการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Wellograph มาติดตั้งที่สมาร์ทโฟน ต่อด้วยทำการ Sync ข้อมูลต่างๆ จาก นาฬิกา Wellograph (นาฬิกา Wellograph รองรับการใช้งานทั้ง 3 ระบบปฏิบัติการ ได้แก่ iOS, Android และ Windows Phone)
 
โดยข้อมูลต่างๆ บนนาฬิกา Wellograph จะมาแสดงอยู่บนสมาร์ทโฟนทั้งหมด ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถดูรายละเอียดทั้งหมดได้สะดวกมากขึ้น

นอกจากนี้ คุณยังสามารถสั่งอัปเดตซอฟต์แวร์นาฬิกา Wellograph ได้ ผ่านทางแอปพลิเคชัน Wellograph อีกด้วย
สรุปผลการทดสอบใช้งานนาฬิกา Wellograph

หลังจากที่ได้นำเอานาฬิกาอัจฉริยะ Wellograph เรือนนี้ออกไปใช้งานในชีวิตประจำวัน ก็ต้องยอมรับในเรื่องของดีไซน์ที่ดูสวยหรูแปลกตาไม่เหมือนใคร ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะหนาไปสักหน่อย (ตัวเครื่องหนา 12.5 มิลลิเมตร) แต่ก็ไม่มีผลเสียต่อการใช้งาน แถมตัวเครื่องยังใช้วัสดุเกรดพรีเมียม ที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างอะลูมีเนียม, สแตนเลส และกระจกแซฟไฟร์ จึงมันใจได้เลยว่านาฬิกา Wellograph จะมีแข็งแรงทนทานอย่างแน่นอน และยังเพิ่มความหรูมีระดับด้วยสายหนังแท้ ที่เมื่อสวมใส่จะสัมผัสได้ถึงความนุ่ม จึงทำให้สวมใส่สบายไม่อึดอัด
แต่อย่างไรก็ดี สายหนังจะไม่เหมาะกับผู้ใส่ที่เน้นออกกำลังเป็นหลัก เพราะตัวสายหนังจะซับเหงื่อ และอาจจะทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ แต่ก็สามารถแก้ปัญหาได้โดยการซื้อสายเรซินมาใช้งานแทนสายหนังได้ นอกจากนี้ นาฬิกา Wellograph ยังผ่านการรับรองมาตรฐานการกันน้ำ 5 ATM คือ สามารถกันน้ำลึกได้ถึง 50 เมตร เลยทีเดียว
ส่วนจุดขายอีกด้านที่โดดเด่นไม่แพ้กันของนาฬิกา Wellograph คงจะเป็นในเรื่องของการใช้งานควบคู่กับการออกกำลังกาย และการดูแลสุขภาพได้อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ฟังก์ชันการนับก้าวเดิน, ฟังก์ชันการตรวจสอบการไม่เคลื่อนไหว, ฟังก์ชันการนอนหลับ และฟังก์ชันการวิ่ง อีกทั้งยังสามารถบอก ระยะทาง, ระยะเวลา และการเผาผลาญแคลอรี่ได้ เรียกได้ว่ามี นาฬิกา Wellograph เพียงเครื่องเดียวก็สามารถออกกำลังกายได้อย่างเพลิดเพลิน และดูแลสุขภาพได้อย่างเป็นระบบ รวมถึงข้อมูลต่างๆ ยังถูกบันทึกเก็บไว้ให้เรามาดูย้อนหลังได้อีกด้วย ดังนั้นจึงสามารถติดตามผลของการออกกำลังกายได้
และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ นาฬิกา Wellograph ยังมีเซ็นเซอร์สำหรับตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจถึง 3 ตัว ช่วยให้จับสัญญาณการเต้นของหัวใจได้อย่างแม่นยำ และมีจุดเด่นสามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งจะเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายเป็นหลัก หรือควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจให้อยู่ในโซนที่ต้องการได้
อีกหนึ่งจุดเด่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ นาฬิกา Wellograph สามารถเก็บข้อมูลต่างๆ ได้นานถึง 4 เดือน แถมยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อส่งข้อมูลต่างๆ ไปแสดงผลบนสมาร์ทโฟน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการติดตามผลของการออกกำลังกาย แถมยังเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้ใช้สนใจออกกำลัง หรือดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้นอีกด้วย และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ คุณสามารถใช้งานนาฬิกา Wellograph ได้นานถึง 7 วัน ต่อการชาร์จแบตเตอรี่หนึ่งครั้ง

สำหรับนาฬิกา Wellograph จะเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหานาฬิกาอัจฉริยะที่มีดีไซน์สวยหรูไม่เหมือนใคร, บอดี้ที่แข็งแกร่งทนทาน, กันน้ำได้, ฟังก์ชันให้ใช้งานหลากหลาย และสามารถใช้งานร่วมกับการออกกำลังกาย หรือการดูแลสุขภาพได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ในราคาค่าตัวที่ไม่เกินเอื้อม
โดยนาฬิกา Wellograph จะมีราคาอยู่ที่ 8,900 บาท และสำหรับท่านใดที่สนใจก็สามารถสั่งซื้อผ่านศูนย์รวม SmartWatch รายใหญ่อย่าง itruemart.com ซึ่งในตอนนี้ทางเว็บไซต์ itruemart ก็ได้จัดโปรโมชันผ่อน 0% นาน 6 เดือนเฉพาะบัตรที่ร่วมรายการ สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง itruemart ที่ส่งนาฬิกา Wellograph มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน พบกันได้ใหม่ ในโอกาสหน้า สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ
คลิกสั่งซื่อนาฬิกา Wellograph ได้ที่นี่
Thaimobilecenter.com
วันที่ : 31/8/58
|