รีวิว (Review) ASTON Thunder 8
สมาร์ทโฟนกล้องคู่ 13+5 ล้านพิกเซล ในราคาไม่ถึง 5 พันบาท! พร้อมจอใหญ่ 5.5 นิ้ว, ชิปเซ็ต MediaTek MT6737P, RAM 2GB, ROM 16GB, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล, รองรับ 4G, แบตเตอรี่ 3000 mAh และระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat บนตัวเครื่อง Unibody ในราคาเพียง 4,990 บาท
Review
Date (6-ธันวาคม-2560)

ถ้าหากกล่าวถึงตลาดสมาร์ทโฟนราคาประหยัดที่มีระดับราคาไม่เกิน 5,000 บาทนั้น ปัจจุบันถือว่า มีการแข่งขันค่อนข้างสูงเนื่องจากมีให้เลือกหลายรุ่น ด้วยดีไซน์และสเปกที่แตกต่างกันไป โดยมีหลายรุ่นที่มาพร้อมกับคุณสมบัติเทียบเท่าสมาร์ทโฟนระดับกลางเลยก็ว่าได้ เช่นเดียวกับสมาร์ทโฟนที่ทีมงานเว็บไซต์ไทยโมบายเซ็นเตอร์จะนำมารีวิวให้ชมกันในวันนี้ นั่นก็คือ ASTON
Thunder 8 แบรนด์สัญชาติไทย ที่นอกจากจะมาพร้อมกับดีไซน์สวยหรูตามสมัยนิยมแล้ว ยังมีราคาค่าตัวเพียง 4,990 บาท เท่านั้น
โดย ASTON Thunder 8 มีจุดเด่นที่น่าสนใจหลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Unibody ที่ขึ้นรูปวัสดุเป็นชิ้นเดียวกัน, หน้าจอแสดงผลขนาด 5.5 นิ้ว แบบ IPS LCD ความละเอียด 1280x720 พิกเซล, เทคโนโลยี MiraVision 2.0 ที่ช่วยปรับการแสดงผลของหน้าจอให้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด และถนอมสายตา, ชิปเซ็ต MediaTek MT6737P แบบ Quad-Core Processor
(64-bit) ความเร็ว 1.25 GHz, หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก Mali-T720, หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB และหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง (ROM) ขนาด 16 GB รองรับหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card สูงสุด 128 GB
ในด้านการถ่ายภาพนั้น ถือว่า ASTON Thunder 8 เป็นอีกรุ่นที่ตอบโจทย์ด้านการถ่ายภาพเลยก็ว่าได้ โดยมาพร้อมกับกล้องด้านหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED ส่วนกล้องด้านหลัง เป็นกล้องคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 13+5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED นอกจากนี้ ยังรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 3G และ 4G
LTE, แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 7.0 (Nougat)
ด้วยราคาค่าตัวเพียง 4,990 บาท กับคุ้มค่ากับการใช้งานมากน้อยแค่ไหน มาพิสูจน์ไปพร้อม ๆ กันกับ รีวิว ASTON Thunder 8
รูปลักษณ์ภายนอก และการออกแบบดีไซน์

สำหรับ ASTON Thunder 8 เครื่องที่นำมารีวิวนี้ มาพร้อมกล่องแพ็กเกจสีแดง ซึ่งบนกล่องมีการระบุอักษรคำว่า Thunder อย่างชัดเจน

ด้านข้างกล่องมีการระบุสีตัวเครื่อง ซึ่งรุ่นนี้มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีดำ, สีทอง และสีแดง โดยรุ่นที่นำมารีวิวนี้เป็นตัวเครื่องสีดำ

ภายในกล่องประกอบด้วย สายเชื่อมต่อแบบ microUSB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่หรือถ่ายโอนข้อมูล, Adapter, หูฟังมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร, เข็มสำหรับจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด, คู่มือการใช้งาน และใบรับประกัน

นอกจากนี้ ยังมีเคสใส, ฟิล์มกันรอย และกระจกกันรอยมาให้ในกล่องอีกด้วย ไม่ต้องหาซื้อเพิ่มแต่อย่างใด

ASTON Thunder 8 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาด 5.5 นิ้ว แบบ IPS LCD ความละเอียด 1280x720 พิกเซล พร้อมเทคโนโลยี MiraVision 2.0 ที่ช่วยปรับการแสดงผลของหน้าจอให้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด และถนอมสายตา

ด้านหน้าส่วนบน ประกอบด้วย ลำโพงสำหรับสนทนา, เซ็นเซอร์ต่าง ๆ, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED และระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ ซึ่งกล้องด้านหน้า รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 480p

ด้านหน้าส่วนล่าง ประกอบด้วย ปุ่มเมนูแบบ On-Screen ประกอบด้วย ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่ม Home และปุ่ม Recent Apps (สามารถซ่อนได้) นอกจากนี้ ยังมีปุ่ม Home แบบ Physical Button คล้าย iPhone 7 ที่ไม่สามารถกดลงไปได้จริง ๆ แต่เมื่อสัมผัสเบา ๆ จะมีความรู้สึกเหมือนกับว่า สามารถกดได้และมีแรงสั่นเล็กน้อย ซึ่งเมื่อปิดเครื่อง ปุ่ม Home ดังกล่าวจะไม่สามารถกดได้เหมือนเป็นชิ้นเดียวกับหน้าจอเลยนั่นเอง

ด้านบนของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ด้านล่างของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ไมโครโฟนตัวหลักสำหรับสนทนา, พอร์ต microUSB และลำโพงเสียง


ด้านขวาของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ถาดใส่ซิมการ์ด ซึ่งรุ่นนี้รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบ microSIM กับ nanoSIM และรองรับหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card ด้วยเช่นกัน รองรับสูงสุด 128 GB แต่ไม่สามารถใส่ microSD Card กับซิมการ์ดที่ 2 พร้อมกันได้ ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง

ด้านซ้ายของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดตัวเครื่อง หรือล็อกหน้าจอแสดงผล


ด้านหลังตัวเครื่อง ประกอบด้วย กล้องคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 13+5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED และโลโก้แบรนด์ ASTON ซึ่งรุ่นนี้ไม่สามารถถอดแกะฝาหลังเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ โดยแบตเตอรี่มีขนาดความจุอยู่ที่ 3000 mAh ส่วนบอดี้เป็นแบบ Unibody ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีการขึ้นรูปวัสดุเป็นชิ้นเดียวกัน
เปิดเครื่อง พร้อมทดสอบการใช้งานด้านซอฟต์แวร์

ASTON Thunder 8 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 7.0 (Nougat) และรองรับเครือข่าย 3G (850/900/2100 MHz) และ 4G LTE (850/900/1900/2100 MHz) โดยตัวเครื่องมาพร้อมชิปเซ็ต MediaTek MT6737P แบบ Quad-Core Processor (64-bit) ความเร็ว 1.25 GHz และหน่วยประมวลผลภาพกราฟิก Mali-T720

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB, หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง มีขนาดอยู่ที่ 16 GB และรองรับหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card สูงสุด 128 GB

ASTON Thunder 8 ไม่มี App Drawer ซึ่งแอปพลิเคชันทั้งหมดในเครื่องจะอยู่ในหน้า Home Screen แต่ผู้ใช้สามารถสร้างโฟลเดอร์เพื่อจัดเรียงให้เป็นหมวดหมู่ได้

การปัดนิ้วจากด้านบนลงล่าง จะเป็น Notification Center รวมการแจ้งเตือนทั้งหมดในตัวเครื่อง พร้อมเมนูลัดสำหรับตั้งค่าการใช้งานต่าง ๆ เช่น เปิด-ปิด Wi-Fi, เปิด-ปิด Bluetooth, การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต, ไฟฉาย และอื่นๆ

ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนหน้าจอ Home Screen ได้ตามการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น Widget, ภาพวอลเปเปอร์ หรือธีม

ASTON Thunder 8 รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดภายในเครื่องเดียว โดยฟังก์ชันการใช้งานด้านโทรศัพท์ มาพร้อมกับอินเทอร์เฟสเรียบง่าย ปุ่มกดตัวเลขแบบสัมผัสขนาดใหญ่ สามารถค้นหารายชื่อผู้ติดต่อ รวมถึงบันทึกการโทรได้

นอกจากนี้ ASTON Thunder 8 ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี MiraVision 2.0 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยปรับหน้าจอแสดงผลให้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด โดยให้ผลลัพธ์แบบเรียลไทม์ และช่วยถนอมสายตาอีกด้วย

สำหรับแอปพลิเคชันฟังเพลง สามารถปรับค่าอีควอไลเซอร์ได้หลายรูป ไม่ว่าจะเป็น คลาสสิก, แดนซ์, แจ๊ส, ป๊อป และอื่นๆ

ด้านบริการต่าง ๆ จาก Google ก็มีให้เลือกใช้งานอย่างจุใจ ไม่ว่าจะเป็น Gmail, Google Maps, Google Drive, Chrome และ Play Store

นอกจากนี้ ASTON Thunder 8 ยังมีวิทยุ FM ในตัว, เครื่องบันทึกเสียง และเครื่องคิดเลข

ด้านการประมวลผลนั้น มาพร้อมชิปเซ็ต MediaTek MT6737P แบบ Quad-Core Processor (64-bit) ความเร็ว 1.25 GHz, หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก Mali-T720 และหน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB จากการทดสอบกับเกมยอดนิยมอย่าง ROV พบว่า สามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล ไม่มีอาการหน่วงแต่อย่างใด อีกทั้งหน้าจอขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว สามารถแสดงผลได้อย่างเต็มตา

มาทดสอบ Benchmark บน ASTON Thunder 8 กันบ้าง โดยผลการทดสอบด้วยโปรแกรม AnTuTu ทำได้ 29,709 คะแนน ส่วนการทดสอบด้วยโปรแกรม Geekbench 4 ทำได้ 529 คะแนน (Single-Core) และ 1,437 คะแนน (Multi-Core)

และรองรับระบบมัลติทัชที่ 2 จุด
กล้องดิจิทัล การถ่ายภาพนิ่ง และภาพวิดีโอ

มาดูกันที่กล้องถ่ายรูปบน ASTON Thunder 8 กันบ้าง โดยรุ่นนี้มาพร้อมกับกล้องด้านหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED สำหรับถ่ายภาพในที่แสงน้อย ซึ่งกล้องด้านหน้ามาพร้อมกับโหมดการถ่ายภาพให้เลือก 4 โหมดด้วยกัน ได้แก่ Video, โหมดถ่ายภาพปกติ (Photo), โหมดถ่ายภาพหน้าสวย (Face Beauty) และโหมดถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ (SLR)
โดยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (Face Beauty) ของกล้องด้านหน้า สามารถปรับใบหน้าได้ 5 แบบด้วยกัน ได้แก่ Buffing (หน้าเนียน), Face-Lift (หน้าเรียว), Whitening (หน้าขาว), Big Eyes (ปรับตาโต) และ One-Key (รวม 4 แบบแรกไว้ด้วยกัน)
ส่วนโหมดถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ (SLR) สามารถปรับค่ารูรับแสงได้อย่างอิสระ จากแคบสุดไปยังกว้างสุด

สำหรับกล้องด้านหลังบน ASTON Thunder 8 เป็นกล้องคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 13+5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED มีโหมดการถ่ายภาพให้เลือกทั้งหมด 5 โหมดด้วยกัน ได้แก่ Video, โหมดถ่ายภาพปกติ (Photo), โหมดถ่ายภาพหน้าสวย (Face Beauty), พาโนรามา และโหมดถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ (SLR)
โหมดถ่ายภาพหน้าสวย (Face Beauty) ของกล้องด้านหลัง สามารถปรับใบหน้าได้ 5 แบบเช่นเดียวกับกล้องด้านหน้า ซึ่งได้แก่ Buffing, Face-Lift, Whitening, Big Eyes และ One-Key

รวมถึงสามารถถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ (SLR) พร้อมปรับค่ารูรับแสงได้อย่างอิสระ จากแคบสุดไปยังกว้างสุด ได้เช่นเดียวกับกล้องด้านหน้า

นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานกล้องถ่ายรูปทั้งด้านหน้าและด้านหลังได้หลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ขนาดของภาพถ่าย (ทั้งกล้องด้านหน้าและด้านหลัง) โดยเลือกความละเอียดได้สูงสุด 13 ล้านพิกเซล สำหรับกล้องด้านหน้า และ 8 ล้านพิกเซล สำหรับกล้องด้านหลัง

สามารถตั้งเวลาถ่ายภาพตัวเองได้ (2 วินาที และ 10 วินาที)

โหมดถ่ายภาพสำเร็จรูป (อัตโนมัติ, กลางคืน, ดวงอาทิตย์ตก, งานเลี้ยง, Portrait, ทิวทัศน์, Portrait ตอนกลางคืน, ละครเวที, ชายทะเล, หิมะ, พลุ, การทำงาน และแสงเทียน)

ตั้งค่าการชดเชยแสงได้

ตั้งค่า White Balance (อัตโนมัติ, หลอดไส้, กลางวัน, ฟลูออเรสเซนต์, เมฆมาก, โพล้เพล้, เงา และฟลูออเรสเซนต์อุ่น)

เปิดใช้งานฟังก์ชันป้องกันการกระพริบที่หน้าจอได้สูงสุด 60 Hz

ปรับตั้งค่า ISO (อัตโนมัติ, 100, 200, 400, 800 และ 1600)
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียด 13+5 ล้านพิกเซล ของ ASTON Thunder 8

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดหน้าชัดหลังเบลอ (SLR) ปรับค่ารูรับแสงในระดับสูงสุด

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดหน้าชัดหลังเบลอ (SLR) ปรับค่ารูรับแสงในระดับสูงสุด
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ของ ASTON Thunder 8

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดหน้าสวย (Face Beauty) ปรับค่าในระดับสูงสุด

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดหน้าสวย (Face Beauty) ปรับค่าในระดับกลาง
สรุปผลการทดสอบของ ASTON Thunder 8

สำหรับ ASTON Thunder 8 มือถือกล้องคู่ราคาประหยัด ถือว่าเป็นรุ่นที่ตอบโจทย์ผู้ที่มองหา มือถือกล้องคู่ แต่มีงบประมาณที่จำกัด ซึ่งจุดเด่นของ ASTON Thunder 8 รุ่นนี้ โดดเด่นตั้งแต่การออกแบบเลยก็ว่าได้ ด้วยดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Unibody ที่ขึ้นรูปวัสดุเป็นชิ้นเดียวกัน และหน้าจอแสดงผลขนาด 5.5 นิ้ว แบบ IPS LCD ความละเอียด 1280x720 พิกเซล พร้อมเทคโนโลยี MiraVision 2.0 ที่ช่วยปรับการแสดงผลของหน้าจอให้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด
และถนอมสายตา ทำให้ ASTON Thunder 8 รองรับการใช้งานทุกรูปแบบ ทั้งการใช้งานทั่วไป รวมถึงด้านมัลติมีเดียต่าง ๆ
จุดขายสำคัญอีกอย่างของ ASTON Thunder 8 นั่นก็คือ กล้องถ่ายรูปทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยกล้องด้านหน้า มาพร้อมความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED ส่วนกล้องด้านหลัง เป็นกล้องคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 13+5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับโหมดหน้าสวย (Face Beauty) ที่สามารถปรับแต่งใบหน้าได้ถึง 5 แบบ ทั้งหน้าเนียน, หน้าเรียว และตาโต รวมถึงโหมดถ่าย
าพแบบหน้าชัดหลังเบลอ (SLR) กับการปรับขนาดของรูรับแสงได้อย่างอิสระ ซึ่งถือว่าเป็นอีกลูกเล่นที่น่าสนใจ แต่โหมดหน้าชัดหลังเบลอบน ASTON Thunder 8 นั้น จะชัดเจนเฉพาะบริเวณที่โฟกัสเท่านั้น ถ้าอยู่นอกโฟกัสภาพจะเบลอฟุ้ง รวมไปถึงการถ่ายภาพบุคคลแบบหน้าชัดหลังเบลอ ก็ยังไม่เป็นธรรมชาติเท่าที่ควร
สำหรับคุณสมบัติในด้านอื่น ๆ บน ASTON Thunder 8 ประกอบด้วย ชิปเซ็ต MediaTek MT6737P แบบ Quad-Core Processor (64-bit) ความเร็ว 1.25 GHz, หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก Mali-T720, หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB, หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง (ROM) ขนาด 16 GB รองรับหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card สูงสุด 128 GB, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ
3G และ 4G LTE, แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 7.0 (Nougat) น่าเสียดายที่รุ่นนี้ไม่รองรับการสแกนลายนิ้วมือ
สำหรับราคาของ ASTON Thunder 8 อยู่ที่ 4,990 บาท เท่านั้น โดยมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีดำ, สีแดง และสีทอง สามารถหาซื้อได้ผ่านทางตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง ASTON ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง ASTON Thunder 8 มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน
สรุปคุณสมบัติเด่นของ ASTON Thunder 8
- เทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ Unibody ที่ขึ้นรูปวัสดุเป็นชิ้นเดียวกัน
- หน้าจอแสดงผลขนาด 5.5 นิ้ว แบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1280x720 พิกเซล พร้อมเทคโนโลยี MiraVision 2.0
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต MediaTek MT6737P แบบ Quad-Core Processor (64-bit) ความเร็ว 1.25 GHz
- หน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Mali-T720
- ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 7.0 Nougat
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB พร้อมรองรับหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD ได้สูงสุด 128 GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 13+5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ HD (720p)
- กล้องดิจิทัลที่ด้านหน้าของตัวเครื่องแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียดระดับ 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED, รองรับโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (Face Beauty) และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 480p
-
โหมดถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ (SLR) รองรับทั้งกล้องด้านหน้าและกล้องด้านหลัง
- รองรับการใช้งานสองซิมการ์ดพร้อมกันในเครื่องเดียว (Hybrid Slot)
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, EDGE และ GPRS
- ระบบ GPS+A-GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง)
- แบตเตอรี่แบบ Li-Ion Polymer 3000 mAh
- ราคาเพียง 4,990 บาท ซึ่งเมื่อเทียบกับคุณสมบัติโดยรวมถือว่าคุ้มค่า
- แถมฟรี เคสใส, ฟิล์มกันรอย และกระจกกันรอย
มาพร้อมชุดจำหน่ายมาตรฐาน
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ ASTON Thunder 8
- วัสดุที่ใช้ผลิตตัวเครื่องไม่ใช่โลหะ
-
เนื่องจากดีไซน์ตัวเครื่องเป็นแบบ Unibody ทำให้ไม่สามารถถอด หรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ด้วยตนเองได้
- ไม่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
- ถาดใส่ซิมการ์ดเป็นแบบ Hybrid Slot ซึ่งไม่สามารถใส่ซิมการ์ดที่สอง กับหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD พร้อมกันได้
- โหมดถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ ยังดูไม่เป็นธรรมชาติเท่าที่ควร
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *
:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter
| ไปหน้าแรก
Mobile Focus ::
|