รีวิว (Review) Aston Legacy X100
สมาร์ทโฟน 4 กล้อง ในราคาไม่ถึง 5 พันบาท! ด้วยกล้องคู่หน้า-หลัง พร้อมจอ Full HD ใหญ่ 5.5 นิ้ว, ชิปเซ็ต MediaTek 6737T, RAM 3GB, ROM 32GB, เซ็นเซอร์สแกนนิ้ว, แบตเตอรี่ 3000 mAh และระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat บนบอดี้สวยบางเฉียบ กับค่าตัวเพียง 4,990 บาท
Review
Date (27-พฤศจิกายน-2560)

ในปัจจุบันหลายท่านน่าจะสังเกตเห็นได้ว่า แบรนด์ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแต่ละค่ายได้มีการพัฒนาระบบกล้องถ่ายภาพให้มีฟีเจอร์ที่ก้าวล้ำมากขึ้น จากเดิมที่เคยใช้กล้องหลักเพียงแค่ตัวเดียว ก็เพิ่มกล้องเลนส์ตัวที่สองเพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพด้านการถ่ายรูปของตัวกล้องหลัก หรือที่เรารู้จักกันในระบบ Dual-Camera นั่นเอง ซึ่งในปัจจุบัน สมาร์ทโฟนบางรุ่นก็ไม่ได้มีเพียงแค่กล้องคู่เท่านั้น เพราะบางรุ่นก็มีกล้องดิจิทัลสำหรับเก็บภาพความประทับใจถึง 4 ตัวเลยทีเดียว โดยในวันนี้ทางทีมงานก็มีสมาร์ทโฟนกล้อง
4 ตัวราคาประหยัดจากแบรนด์ประเทศไทย ที่มาพร้อมกับกล้องดิจิทัลถึง 4 ตัว และสเปกแบบครบเครื่อง มานำเสนอให้ทุกท่านได้รับชมกัน นั่นคือ Aston Legacy X100
สำหรับจุดขายที่น่าสนใจของ Aston Legacy X100 มีอยู่หลายส่วนด้วยกัน ไล่ตั้งแต่ ดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Unibody ด้วยกระบวนการขึ้นรูปวัสดุเป็นชิ้นเดียวกัน, หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ขนาด 5.5 นิ้ว, เทคโนโลยี MiraVision 2.0 สำหรับช่วยปรับการแสดงผลของหน้าจอให้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด และช่วยถนอนสายตาได้, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ สำหรับตรวจสอบสิทธิเข้าใช้งาน,
กล้องดิจิทัลด้านหน้าแบบคู่ (Dual-Camera) พร้อมไฟแฟลชแบบ LED ที่รองรับการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ, กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) พร้อมไฟแฟลชแบบ LED, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE และ 3G และแบตเตอรี่ขนาด 3000mAh
ด้านประสิทธิภาพการทำงาน ตอบโจทย์การใช้งานพื้นฐานทั่วไป โดยมาพร้อมกับชิปเซ็ต 64-bit Quad-Core MediaTek 6737T ความเร็วในการประมวลผล 1.44 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T720, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3GB, หน่วยความจำภายใน (ROM) ความจุ 32GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 7.0 Nougat
สำหรับ Aston Legacy X100 เปิดราคาวางจำหน่ายในบ้านเราที่ 5,990 บาท แต่หากสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์อย่าง Lazada จะได้รับส่วนลดเพิ่มเติมอีก 1,000 บาท ทำให้เหลือเพียง 4,990 บาทเท่านั้น! และจากข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า Aston Legacy X100 นั้นมีความน่าสนใจอยู่หลายส่วนด้วยกัน ทั้งระบบกล้องคู่ (Dual-Camera) ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง, ฟีเจอร์การใช้งานแบบครบเครื่อง รวมไปถึงคุณสมบัติตัวเครื่องที่พร้อมตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกรูปแบบ
แต่การใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร, กล้องดิจิทัลแบบคู่จะสามารถถ่ายภาพได้คมชัดมากน้อยเพียงใด รวมทั้งจะมีฟีเจอร์เด็ดอะไรให้ใช้งานบ้าง ขอเชิญทุกท่านไปติดตามรับชมรีวิว Aston Legacy X100 พร้อมกันได้เลยครับ
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

สำหรับ Aston Legacy X100 จะมาพร้อมในแพกเกจสีดำเรียบหรู พร้อมประทับชื่อรุ่น Legacy ด้วยตัวอักษรสีแดงเอาไว้อย่างเด่นชัด

ด้านหลังของกล่อง มีการระบุคุณสมบัติเด่นของ Aston Legacy X100 เอาไว้ เริ่มตั้งแต่ ระบบกล้องคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 13+5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง, หน่วยวามจำแรม (RAM) ขนาด 3GB, หน่วยความจำภายใน (ROM) ความจุ 32GB, รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 4G LTE, หน้าจอแสดงผลคมชัดระดับ Full HD พร้อมเทคโนโลยี Mira Vision และการทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 7.0 Nougat

ด้านล่างของกล่อง จะมีการระบุสีตัวเครื่องเอาไว้ด้วย โดยสีที่ทางทีมงานได้รับมารีวิวนั้น คือ สีดำ (Black)

สำหรับ Aston Legacy X100 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ขนาด 5.5 นิ้ว โดยมีขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 151x76x8.2 มิลลิเมตร น้ำหนักรวม 180 กรัม

ด้านหน้าส่วนบนประกอบไปด้วยลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา กล้องดิจิทัลแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 13 + 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED, ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา, ระบบ Accelerometer Sensor สำหรับช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้ และระบบ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน

ด้านหน้าส่วนล่างมีปุ่มการสั่งงาน On Screen ซึ่งประกอบไปด้วยปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ ถัดลงมาเป็นปุ่มโฮมแบบ Physical ที่ฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเอาไว้ด้านล่าง สำหรับตรวจสอบสิทธิการเข้าใช้งาน

ด้านบนของตัวเครื่องมีช่องเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร ติดตั้งเอาไว้

ด้านล่างของตัวเครื่องมีไมโครโฟน, ช่องเชื่อมต่อแบบ microUSB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ หรือโอนถ่ายข้อมูล และลำโพงเสียงภายนอก

ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และปุ่มเพิ่ม-ลด ระดับเสียง


ด้านขวาของตัวเครื่องมีถาดสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ Hybrid Slot ซึ่งรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด (microSIM + nanoSIM) แต่ในช่องที่สองจะต้องเลือกใช้งานระหว่างซิมการ์ดที่ 2 หรือเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD


ด้านหลังของตัวเครื่องมีกล้องดิจิทัลแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 13 + 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED สำหรับบอดี้ของ Aston Legacy X100 ผลิตด้วยเทคโนโลยีการขึ้นรูปวัสดุเป็นชิ้นเดียวกันแบบ Unibody นอกจากนี้ ภายในตัวเครื่องยังมีแบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh

สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องก็มีมาให้ใช้งานอย่างครบครัน เริ่มตั้งแต่ เคสใส, ใบรับประกัน, คู่มือการใช้งาน, เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด, ฟิล์มกันรอย, ฟิล์มกระจกกันรอย, Adapter, สายเชื่อมต่อแบบ microUSB สำหรับโอนถ่ายข้อมูล หรือชาร์จแบตเตอรี่ และหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร
เปิดเครื่อง พร้อมทดสอบการใช้งานด้านซอฟต์แวร์
 
Aston Legacy X100 ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 7.0 Nougat พร้อมรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด และรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G ได้
 
โดยมีหน่วยความจำแรมขนาด 3GB และหน่วยความจำภายในขนาด 32GB
 
เมื่อปัดนิ้วจากด้านบนลงล่าง จะพบกับ Toggle Switch สำหรับเปิด-ปิด ฟังก์ชันลัดได้หลากหลาย เช่น การใช้งานอินเทอร์เน็ต, ไฟฉาย หรือ Wif เป็นต้น ส่วนที่ด้านล่างคือ Notification Center ซึ่งเป็นฟังก์ชันสำหรับการแจ้งเตือนต่างๆ
 
สำหรับฟังก์ชันโทรศัพท์ มาพร้อมกับหน้าตาที่สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย พร้อมด้วยปุ่มตัวเลขขนาดใหญ่ และสามารถเข้าดูรายชื่อโทรศัพท์ หรือบันทึกการโทรได้ทันที

นอกจากนี้ Aston Legacy X100 ยังมาพร้อมเทคโนโลยี MiraVision 2.0 ที่ช่วยให้หน้าจอแสดงผลได้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด และช่วยถนอมสายตาได้อีกด้วย
 
สำหรับเว็บเบราว์เซอร์พื้นฐานที่ติดตั้งมาให้ ตอบสนองต่อการใช้งานได้เป็นอย่างดี ด้วยการแสดงรายละเอียดต่างๆ บนเว็บไซต์ได้ครบถ้วน และไม่ปรากฏอาการหน่วงให้เห็น

พร้อมทั้ง ยังรองรับฟีเจอร์ Multi Window ที่ช่วยให้ผู้ใช้เปิดใช้งานแอปพลิเคชันแบบสองหน้าต่างได้ในเวลาเดียวกัน
 
ทางด้านแอปพลิเคชันอัลบั้มภาพถ่ายนั้นสามารถแสดงภาพถ่ายได้ทั้งหมด 3 รูปแบบ ได้แก่ แสดงแบบแยกอัลบั้ม, แสดงตามสถานที่ และแสดงตามเวลา
 
อย่างที่กล่าวไปด้านต้นว่า Aston Legacy X100 มาพร้อมกับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มโฮม สำหรับปลดล็อกตัวเครื่องด้วยลายนิ้วมือได้ แต่ผู้ใช้งานจะต้องทำการลงทะเบียนลายนิ้วมือให้เรียบร้อยเสียก่อน ซึ่งสามารถลงทะเบียนได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ และจากการทดสอบตัวเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือก็ตอบสนองต่อการใช้งานได้รวดเร็วแม่นยำ อีกทั้ง ยังสามารถสั่งงานการถ่ายภาพ, รับสาย, บันทึกภาพหน้าจอผ่านการสแกนลายนิ้วมือได้อีกด้วย
 
Aston Legacy X100 มีแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลงให้ใช้งาน ซึ่งผู้ใช้งานสามารถปรับค่าอีควอไลเซอร์ได้หลายแบบ เช่น Rock, Pop, Jazz, Dance หรือ Classic
 
รวมทั้งยังรองรับการฟังวิทยุ FM ซึ่งผู้ใช้สามารถบันทึกเสียงวิทยุเอาไว้ฟังในภายหลังได้

นอกจากนี้ ยังสามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอที่มีความละเอียดสูงระดับ Full HD (1080) ได้อย่างไหลลื่น โดยไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้พบเจอ
 
สำหรับประสิทธิภาพการทำงาน Aston Legacy X100 มาพร้อมกับชิปเซ็ตประมวลผล 64-bit Quad-Core MediaTek MT6737T ความเร็วในการประมวลผล 1.44 GHz, พร้อมด้วยหน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T720, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 7.0 Nougat

ถึงแม้ว่าคุณสมบัติโดยรวมจะจัดวางอยู่ในระดับทั่วไป แต่ Aston Legacy X100 ก็ยังสามารถตอบโจทย์ด้านการเล่นเกมแบบสาม มิติได้อย่างลื่นไหล ซึ่งถึงแม้ในบางช่วงอาจจะปรากฏอาการหน่วงให้เห็นบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีผลต่อการใช้งานแต่อย่างใด
 
และเมื่อนำ Aston Legacy X100 มาทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 39524 คะแนน

ส่วนระบบ Multi-Touch นั้น Aston Legacy X100 รองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 3 จุด
 
นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน Google Play Store
กล้องดิจิทัล การถ่ายภาพนิ่ง และภาพวิดีโอ
 
มาต่อที่จุดขายของรุ่นนี้อย่างกล้องถ่ายภาพกันบ้าง โดยหน้าอินเทอร์เฟสกล้องถ่ายภาพของ Aston Legacy X100 ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ง่าย ด้วยการจัดวางไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ที่สามารถเลือกใช้งานได้ทันที รวมทั้งยังมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น โหมดถ่ายภาพหน้าสวย, โหมดถ่ายภาพ HDR หรือโหมดถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ (SLR)
 
ด้วยความที่เป็นกล้องคู่ จึงสามารถถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ พร้อมปรับค่ารูรับแสงได้อย่างอิสระ ตั้งแต่แคบสุด ไปจนถึงกว้างสุด
 
นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานเพิ่มเติมได้หลายจุด ไม่ว่าจะเป็น การแท็กสถานที่บนภาพถ่าย, การชดเชยแสง, ไวต์บาลานซ์, การป้องกันภาพกะพริบ เปิด-ปิด ฟังก์ชัน ZSD (Zero Shutter Delay), ฟังก์ชันการตรวจจับใบหน้า, และฟังก์ชันการตรวจจับรอยยิ้ม และการคืนการตั้งค่าทั้งหมด
 
มีเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพ รวมถึงโหมดถ่ายภาพสำเร็จรูป

การเปิดใช้งานฟังก์ชันป้องกันการกระพริบที่หน้าจอได้สูงสุด 60 Hz

สามารถเลือกความละเอียดของภาพถ่ายได้สูงสุดที่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล

สามารถตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพได้นานสูงสุด 10 วินาที
 
ส่วนทางด้านโหมดถ่ายวิดีโอนั้น ผู้ใช้สามารถตั้งค่าการใช้งานเพิ่มเติมได้อีกหลายส่วนเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น การเปิดใช้งานระบบลดเสียงรบกวน, ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ EIS (Electronic Image Stabilization), ไมโครโฟน, สามารถตั้งเวลาได้นานสูงสุด 10 วินาที โดย Aston Legacy X100 รองรับการบันทึกภาพวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ HD 720p
 
ด้านกล้องดิจิทัลด้านหน้าก็มีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่ายเช่นเดียวกับกล้องดิจิทัลด้านหลัง ด้วยการแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้ให้เลือกใช้งานได้ทันที และมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งาน 3 รูปแบบ คือ โหมดถ่ายภาพปกติ, โหมดถ่ายภาพหน้าสวย และโหมดถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ (SLR)
 
ด้วยความที่กล้องด้านหน้าเป็นกล้องคู่เช่นเดียวกับกล้องด้านหลัง จึงสามารถถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ พร้อมปรับค่ารูรับแสงได้อย่างอิสระ ตั้งแต่แคบสุด ไปจนถึงกว้างสุด เช่นเดียวกัน
 
โดยผู้ใช้สามารถตั้งค่าเพิ่มเติมได้อีกหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็น การแท็กสถานที่บนภาพถ่าย, การตั้งค่าความละเอียดของภาพถ่าย ที่สามารถตั้งค่าได้สูงสุดที่ 13 ล้านพิกเซล การตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพตัวเอง ที่สามารถตั้งค่าได้สูงสุด 10 วินาที หรือการ เปิด-ปิด ฟังก์ชัน ZSD (Zero Shutter Delay)
 
นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการชดเชยแสง ที่สามารถปรับค่าได้ตั้งแต่ -3 ไปจนถึง +3, การตั้งค่า ISO ที่สามารถตั้งค่าได้สูงสุดที ISO 1600, ไวต์บาลานซ์ และการป้องกันภาพกระพริบที่หน้าจอ
 
มีเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพ กับโหมดถ่ายภาพสำเร็จรูปให้ใช้งานเช่นเดียวกับกล้องหลัง
 
ส่วนทางด้านโหมดถ่ายวิดีโอก็สามารถตั้งค่าการใช้งานเพิ่มเติมได้ ไม่ว่าจะเป็น การตั้งค่าโหมดเสียง, ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ EIS (Electronic Image Stabilization), ไมโครโฟน, สามารถตั้งเวลาได้นานสูงสุด 10 วินาที และสามารถเลือกคุณภาพของไฟล์วิดีโอได้สูงสุดที่ความละเอียดระดับสูง (HD 720p) และสามารถคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้โดยการรแตะที่ไอคอนย้อนกลับบริเวณมุมขวาบน
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียด 13+5 ล้านพิกเซล ของ Aston Legacy X100
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดหน้าชัดหลังเบลอ (SLR)
 ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดหน้าชัดหลังเบลอ (SLR)
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 13+5 ล้านพิกเซล ของ Aston Legacy X100
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าที่ระดับกลาง
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับระดับสูงสุด
 ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ (SLR)
สรุปผลการทดสอบของ Aston Legacy X100

จบลงไปแล้วนะครับ สำหรับการรีวิวสมาร์ทโฟนน้องใหม่อย่าง Aston Legacy X100 ซึ่งมาพร้อมกับความโดดเด่นด้านดีไซน์ตัวเครื่องแบบโค้งมนจับถนัดมือ พร้อมพื้นผิวสัมผัสแบบด้านที่ด้านหลังของตัวเครื่อง และขนาด ผู้ใช้จึงสามารถจับ หรือถือใช้งานได้อย่างถนัดมือ และสามารถพกพาไปใช้งานตามสถานที่ต่างๆ ได้อย่างคล่องตัว
สำหรับจุดเด่นของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้คงจะหนีไม่พ้นในเรื่องของกล้องถ่ายภาพที่จัดวางมาให้ถึง 4 ตัว ด้วยกล้องหน้า-หลังแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 13 + 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED ที่สามารถตอบโจทย์ด้านการถ่ายภาพได้เป็นอย่างดี ซึ่งจากการทดสอบจะเห็นได้ว่าภาพถ่ายที่ได้นั้นมีรายละเอียดที่ค่อนช้างคมชัด และสีสันสดใส พร้อมมีโหมดการถ่ายภาพให้เลือกอย่างหลากหลาย รวมทั้งยังมีโหมดถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ หรือ SLR ให้เลือกใช้งานเช่นเดียวกัน
ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งลูกเล่นที่น่าสนใจ โดยสามารถปรับระดับความเบลอได้ แต่การตัดขอบของตัวบุคคลอาจยังไม่เนียนตาเท่าที่ควร
สำหรับคุณสมบัติด้านอื่นก็ถูกจัดวางมาให้เพื่อตอบโจทย์การใช้งานอย่างครบครัน เริ่มตั้งแต่ หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ขนาด 5.5 นิ้ว, เทคโนโลยี MiraVision 2.0 สำหรับช่วยปรับการแสดงผลของหน้าจอให้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด และช่วยถนอนสายตาได้, พร้อมด้วยชิปเซ็ต 64-bit Quad-Core MediaTek MT6737T ความเร็วในการประมวลผล 1.44 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ
Mali-T720, หน่วยความจำ RAM ขนาด 3GB, หน่วยความจำภายในความจุ 32GB, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ, รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G, แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 7.0 Nougat ซึ่งจากที่ทีมงานได้ลองทดสอบประสิทธิภาพการเล่นเกมที่มีภาพกราฟิกแบบสามมิติ รวมไปถึงการเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดสูงระดับ
Full HD (1080p) ก็พบว่าสามารถทำงานได้อย่างลื่นไหล ซึ่งถึงแม้จะพบอาการหน่วงบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่ส่งผลต่อการใช้งานโดยรวมแต่อย่างใด
และจากการทดสอบทั้งหมดที่ผ่านมาก็พอที่จะสรุปได้ว่า Aston Legacy X100 น่าจะเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนในระดับกลาง ที่มาพร้อมกับจุดเด่นด้านกล้องถ่ายภาพทั้งกล้องหน้ากล้องหลัง, คุณสมบัติแบบครบเครื่อง, มีฟีเจอร์ให้ใช้งานหลากหลาย และต้องมีราคาไม่เกิน 6,000 บาท ซึ่ง Aston Legacy X100 ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว

สำหรับ Aston Legacy X100 จะเริ่มวางจำหน่ายผ่านทางเว็บไซต์ Lazada
ก่อนเป็นลำดับแรก ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. - 24 ธ.ค. 2560 ในราคาเพียง 4,990 บาท เท่านั้น! จากราคาปกติ 5,990 บาท ซึ่งสุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง Aston ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Aston Legacy X100 มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ
จุดเด่นของ Aston Legacy X100
- เทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ Unibody
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) ที่ปุ่มโฮมของตัวเครื่อง สำหรับตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าใช้งานเครื่อง และการเข้าถึงข้อมูลภายใน พร้อมรองรับการสั่งงานถ่ายภาพ หรือรับสาย
- จอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ขนาด 5.5 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยี MiraVision 2.0
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต 64-bit Quad-Core MediaTek MT6737T ความเร็วในการประมวลผล 1.44 GHz
- หน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Mali-T720
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 7.0 Nougat
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 3GB
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32GB พร้อมรองรับการเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้สูงสุด 128 GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 13+5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ HD (720p)
- กล้องดิจิทัลที่ด้านหน้าของตัวเครื่องแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียดระดับ 13 + 5 ล้านพิกเซล พร้อมรองรับโหมดถ่ายภาพหน้าสวย และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ HD (720p)
- รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด (Dual SIM)
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, EDGE และ GPRS
- ระบบ GPS+A-GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง)
- แบตเตอรี่แบบ Li-Ion Polymer 3000 mAh
- ราคา 4,990 บาท (เมื่อสั่งซื้อผ่านช่องทาง Lazada ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. - 24 ธ.ค. 2560)
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Aston Legacy X100
- การเบลอฉากหลังยังดูไม่เป็นธรรมชาติเท่าที่ควร
- วัสดุที่ใช้ผลิตตัวเครื่องไม่ใช่โลหะ
- เนื่องจากตัวเครื่องเป็นดีไซน์แบบไม่มีฝาหลัง จึงไม่สามารถถอด หรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ด้วยตนเองได้
- ถาดใส่ซิมการ์ดเป็นแบบ Hybrid Slot ซึ่งไม่สามารถใส่ซิมการ์ดที่สอง กับการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD พร้อมกันได้
- ในช่วงแรกยังไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วไป ต้องซื้อผ่านเว็บไซต์ Lazada เท่านั้น
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter | ไปหน้าแรก
Mobile Focus ::
|