TMC Point

  8.25

การออกแบบดีไซน์

  8.0

ใช้งานง่ายและสะดวก

  8.0

คุณสมบัติเครื่อง

  8.5

ฟังก์ชันการใช้งาน

 8.5

เสถียรภาพและประสิทธิภาพ

  8.5

ความคุ้มค่าต่อราคา

  8.0

 
   

รีวิว (Review) OPPO Find Gemini
Dual SIM Smartphone with Fully Features
Review Date (29-June-2012)

หลังจากที่ทาง OPPO เปิดตัว OPPO Find 3 อย่างเป็นทางการ ถือว่าทาง OPPO ตั้งใจที่จะลุยตลาดสมาร์ทโฟนอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งกระแสตอบรับของ OPPO Find 3 ก็ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เพราะ OPPO Find 3 ตอบสนองความต้องการและการใช้งานได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ดี OPPO Find 3 นั้นใช้ได้เพียงแค่ซิมเดียวเท่านั้น สำหรับท่านผู้อ่านที่กำลังต้องการสมาร์ทโฟน 2 ซิม เตรียมตัวรับชมบทความต่อไปนี้ให้ดี เพราะทาง OPPO ได้ผลิตสมาร์ทโฟนที่สามารถใช้งานได้พร้อมกันถึง 2 ซิมออกมาแล้ว นั่นก็คือ OPPO Find Gemini เป็นอีกหนึ่งรุ่นใน 3 รุ่น ของตระกูล Find นั่นเอง ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่นานทาง OPPO เพิ่งจะจัดจำหน่ายสมาร์ทโฟนรุ่นน้องเล็กสุดไป อย่าง OPPO Find Guitar ที่สามารถใช้งานได้ 2 ซิมการ์ดและมาพร้อมกล้องหน้าแต่มีราคาไม่ถึงหมื่น ทำให้กระแสตอบรับค่อนข้างดีเลยทีเดียว โดยเจ้า OPPO Find Gemini จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 4 นิ้ว แบบ IPS มีความละเอียดของหน้าจออยู่ที่ 800x480 พิกเซล และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาชมรายละเอียดในส่วนต่างๆ ของรุ่นนี้กันได้เลยครับ  


รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง การออกแบบดีไซน์
 


OPPO Find Gemini มีหน้าจอการแสดงผล แบบ IPS Capacitive ขนาด 4.0 นิ้ว
ซึ่งมีความละเอียดระดับ WVGA หรือ 800x480 พิกเซล


โดยตัวเครื่องมีสีขาวมุก และขอบตัวเครื่องเป็นโครเมียม ซึ่งทาง OPPO ให้การยืนยันว่าไม่ลอกอย่างแน่นอน


ตัวเครื่องด้านหน้าส่วนบน : จะมีกล้องหน้าขนาด 2 ล้านพิกเซล, Proximity Sensor และ ลำโพงสำหรับการสนทนา


ด้านหน้าส่วนล่างตัวเครื่อง : จะมี ปุ่มเมนู, ป่ม Home และ ปุ่ม Back หรือ ย้อนกลับ


ด้านบน : ช่องสำหรับเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร และ ช่องสำหรับแกะฝาเครื่องด้านหลัง


ด้านล่าง : จะมี ไมโครโฟน และ microUSB สำหรับเสียบสายชาร์จแบตเตอรี่หรือโอนถ่ายข้อมูลต่างๆ


ส่วนตัวเครื่องด้านหลังจะเป็นพลาสติกแบบมันเงา


ด้านหลังส่วนบนจะประกอบไปด้วย : กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED
ซึ่งจะช่วยให้ความสว่าง ขณะถ่ายภาพนิ่ง หรือภาพวิดีโอ


ด้านหลังส่วนล่าง : จะมีลำโพงอย่างเดียว


ด้านข้างทางขวา : จะมีปุ่มสำหรับ เพิ่ม/ลด เสียงต่างๆ ของเครื่อง


ด้านข้างทางซ้าย : จะมีปุ่ม เปิด/ปิด เครื่อง

 

เปิดฝาหลัง ใส่แบตเตอรี่ ใส่ซิมการ์ด และใส่การ์ดหน่วยความจำ เพื่อให้พร้อมเปิดใช้งาน


วิธีการเปิดฝาหลังเพียงแค่เอานิ้วแงะเข้าไปที่บริเวณช่องสำหรับเปิดฝาเครื่อง และค่อยๆงัดฝาออกมาอย่างระมัดระวัง


ฝาหลังของ OPPO Find Gemini นั้นเป็นพลาสติกทั้งชิ้น


เมื่อเปิดฝาหลังออกมาก็จะพบกับช่องใส่แบตเตอรี่ ช่องใส่ซิมการ์ด 2 ช่อง และช่องใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD


ช่องใส่ซิมการ์ด 1 จะอยู่ทางซ้าย และทางขวาจะเป็ยช่องใส่ซิมการ์ด 2


แบตเตอรี่ของ OPPO Find Gemini จะเป็นแบตเตอรี่ Lithium ion ที่มีความจุ 1,710 มิลลิแอมป์
ซึ่งถือว่าการสามารถใช้งานได้นานจุใจเลยทีเดียว


สำหรับซิมการ์ดที่จะนำมาใช้กับ OPPO Find Gemini นั้นจะเป็นซิมการ์ดแบบปกติทั้ง 2 ช่อง
ส่วนการ์ดหน่วยความจำจะเป็นแบบ microSD ซึ่งรองรับได้สูงสุด 32GB


การใส่ซิมการ์ดต้องทำการถอดแบตเตอรี่ออกมาเสียก่อน แล้วเสียบซิมการ์ดเข้าไปจากทางด้านล่าง ดังรูป


ส่วนการใส่ microSD ก็ทำการใส่จากทางด้านล่างเช่นเดียวกัน

 

เปรียบเทียบรูปลักษณ์ภายนอกระหว่าง OPPO Find Gemini กับ OPPO Find 3


หลังจากที่ปล่อยให้รุ่นพี่อย่าง OPPO Find 3 บุกตลาดสมาร์ทโฟนมาได้สักระยะ ทางทีมงานไทยโมบายเซ็นเตอร์จึงถือโอกาสนำทั้ง 2 รุ่นมาเปรียบเทียบกันสักเล็กน้อย แน่นอนว่าทั้ง OPPO Find Gemini และ OPPO Find 3 จะไม่สามารถเปรียบเทียบได้ 100% ด้วยระดับราคาที่คาดว่าน่าจะต่างกันพอสมควร เพราะทั้ง 2 รุ่นมีสเปคเครื่องและวัสดุที่แตกต่างกันนั่นเอง


โดยวัสดุที่ใช้ในการผลิต OPPO Find Gemini จะเป็นพลาสสติก ส่วน OPPO Find 3 ถึงแม้จะเป็นพลาสสติกแต่ก็มีชิ้นส่วนที่เป็น เคฟล่า ด้วย แต่ถ้ามองโดยรวมถือว่าทั้ง 2 รุ่น ทำได้ดีตามมาตรฐานแล้ว


เมื่อมองด้านหน้าตัวเครื่องของ OPPO Find 3 จะยาวกว่า OPPO Find Gemini สักเล็กน้อย


จากภาพจะเห็นว่าทางด้าน OPPO Find 3 ตัวเครื่องจะหนากว่า OPPO Find Gemini เล็กน้อย

เปรียบเทียบประสิทธิภาพการแสดงผลระหว่าง OPPO Find Gemini กับ OPPO Find 3


จากภาพ ทั้ง 2 รุ่นแสดงผลความสว่างของภาพ และสีสันได้พอๆ กัน ซึ่งก็น่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะทั้ง OPPO Find Gemini และ OPPO Find 3 ใช้หน้าจอแบบ IPS LCD เหมือนกันนั่นเอง

เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอพพลิเคชั่นต่างๆ ด้านใน


หน้าจอ Lockscreen ที่มีการแสดงข้อมูลพื้นฐานต่างๆ และหากมีสถานะการทำงานอื่นๆ เช่นการชาร์จแบตเตอรี่
ก็จะมีไอคอนแสดงสถานะให้ทราบเช่นกัน


สำหรับ User Interface บน OPPO Find Gemini นั้นจะคร้ายๆกับ User Interface ของ OPPO Find 3
แต่สิ่งที่แตกต่างกันก็คือ รูปแบบของ User Interface บน OPPO Find Gemini จะออกแนวน่ารักเน้นสีสันสดใสมากกว่า


เมื่อกดปุ่มล็อกหน้าจอค้างเอาไว้ ก็จะมีเมนูสำหรับการ ปิดเครื่อง, ปิดเสียง, โหมดการใช้งานบนเครื่องบิน และ รีสตาร์ทเครื่อง ให้เลือกใช้


ในส่วนของแถบด้านบนหน้าจอ จะแสดงข้อมูลพื้นฐานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ระดับสัญญาณ, ชื่อเครือข่าย, รูปแบบของการใช้งานอินเทอร์เน็ต,
สัญลักษณ์เครือข่าย, เวลา และ ระดับพลังงานแบตเตอรี่


หน้าจอ Home Screen สามารถเพิ่มได้สูงสุด 9 หน้า และหากไม่ต้องการใช้งานหน้าใด ก็สามารถลบทิ้งได้ทันที
รวมไปถึงสามารถสลับตำแหน่งของหน้า Home Screen ได้ง่ายๆ เพียงใช้การลากสลับกันเท่านั้น


สำหรับในส่วนของ Notification Bar จะมีไอคอนสำหรับ เปิด/ปิด การใช้งานฟังก์ชันต่างๆ โดยสามารถเลื่อนไปทางขวาได้อีก 2 หน้าด้วยกัน
รวมไปถึงข้อมูลการแจ้งเตือนต่างๆ


หน้าที่ 1


หน้าที่ 2


หน้าที่ 3


ส่วนการใช้งาน 3G สามารถเลือกเปิดได้จากทั้ง ซิมการ์ด 1 และ ซิมการ์ด 2


สามารถเลือกเปิดการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้จากทั้ง 2 ซิมการ์ด ซึ่งการเปิดใช้งานอินเทอร์เน็ต จะต้องเลือกเพียงอันใดอันหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถเปิดพร้อมกันทั้ง 2 ซิมการ์ดได้


เมื่อเลือกเปิดใช้ 3G แล้วจะมีตัวอักษร H โชว์ขึ้นมา ดังรูป


สำหรับการใช้งานด้านโทรศัพท์สามารถเลือกโทรออกได้จากทั้ง 2 ซิมการ์ด และสามารถรับสายโทรเข้าได้ทั้ง 2 ซิมการ์ดเช่นกัน


ตัวอย่างการโทรออกจากซิมการ์ด 1


ตัวอย่างการโทรออกจากซิมการ์ด 2


ตัวอย่างการโทรเข้าของซิมการ์ด 1


ตัวอย่างการโทรเข้าของซิมการ์ด 2


นอกจากนี้ ในส่วนข้อมูลการโทร เข้า/ออก สามารถเลือกดูได้ทั้งหมด


หรือเฉพาะสายที่ไม่ได้รับได้


และยังสามารถกดเข้าไปดูข้อมูลของการโทร เข้า/ออก ของเบอร์ที่ต้องการได้ และสามารถเลือกโทรออกได้ทันที
โดยสามารถเลือกโทรได้จากทั้งซิมการ์ด 1 และ ซิมการ์ด 2

  
เมื่อกดปุ่ม Home ค้างเอาไว้ ก็จะแสดงให้เห็นแอพพลิเคชั่น หรือฟังก์ชันที่เปิดใช้งานล่าสุด


ในหน้า Home Screen หากเราเอานิ้วแตะค้างเอาไว้บริเวณพื้นที่ๆ ว่างอยู่ ก็จะแสดงให้เห็น Interface สำหรับการเพิ่ม วิดเจ็ต, ปุ่มลัด,
วอลเปเปอร์ และโฟลเดอร์


ภายในเครื่อง OPPO Find Gemini ก็มี วิดเจ็ต มาตรฐานมาให้เลือกใช้งานมากมาย


คุณสมบัติของเจ้า OPPO Find Gemini คือจะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เวอร์ชั่น 2.3.6 หรือ Gingerbread พร้อมด้วยหน่วยความจำภายใน 4GB แรม 512MB ใช้ซีพียู Single-Core Arm 7 Processor ความเร็วในการประมวลผล 1GHz
และมีความละเอียดหน้าจออยู่ที่ 800x480 พิกเซล


สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติมได้ผ่าน Google Play Store


ส่วนการใช้งาน Browser ก็ถือว่าไม่มีปัญหาสำหรับเจ้า OPPO Find Gemini ซึ่งตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี


นอกจากนี้ OPPO Find Gemini ยังมาพร้อมกับแอพพลิเคชั่น Safe Manager [แอพพลิเคชั่นขวาบนสุด]


โดยแอพพลิเคชั่น Safe Manager สามารถสแกนไวรัสได้


สามารถเลือกปิดแอพพลิเคชั่นที่เราไม่ต้องการให้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต


หรือบ่งบอกปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ต ซึ่งสามารถบอกได้จากทั้ง 2 ซิมการ์ดเลยทีเดียว


สามารถบล็อคสายเรียกเข้าและข้อความ ที่เราต้องการได้


นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของ Visitor Mode และ Private Zone


อันดับแรกเราต้องใส่รหัสผ่านเพื่อไม่ให้บุคคลอื่น สามารถเข้ามาดูข้อมูลที่เราไม่ต้องการเปิดเผยได้


สำหรับ Visitor Mode นั้นสามารถซ่อนแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่เราไม่ต้องการให้คนอื่นดูได้


ทุกครั้งที่เราจะเข้าไป ยกเลิก หรือ เลือกแอพพลิเคชั่นซ่อนเพิ่ม จะต้องใส่รหัสที่เราตั้งไว้ทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยนั่นเอง


ในส่วนของ Private Zone จะเป็นการสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับตัวเอง


ซึ่งคุณสามารถนำรายชื่อผู้ติดต่อ หรือ SMS ที่คุณต้องการซ่อน นำมาไว้ในนี้ได้ รวมไปถึงแอพพลิเคชั่นด้วยโดยคุณสามารถตั้งค่าในส่วนของ Private Zone ได้


สามารถเลือกได้ว่า ให้ข้อความ สั่น หรือ เงียบ หรือค่าเริ่มต้น


และสามารถตั้งค่าเกี่ยวกับสายผู้ติดต่อส่วนตัวได้ ดังภาพ


ซึ่งถ้าเลือกวางสายและส่งข้อความ เจ้า OPPO Find Gemini จะส่งข้อความไปหาบุคคลนั้นทันที
โดยข้อความที่ส่งกลับเราสามารถตั้งค่าด้วยตนเองได้เช่นกัน


และเช่นเดียวกัน ก่อนจะเข้าตั้งค่าในส่วนของ Private Zone จะต้องใส่รหัสก่อนเข้าทุกครั้ง
เพื่อความปลอดภัยจากบุคคลอื่นที่จะเข้ามาดูข้อมูลความลับของเรา


โดยทั้ง Visitor Mode และ Private Zone สามารตั้งค่าหลักได้เช่นกัน ดังรูป และทุกครั้งที่มีการตั้งค่าใหม่ ทั้ง Visitor Mode และ Private Zone จะต้องรีสาร์ทเครื่องทุกครั้ง เพื่อเริ่มต้นการทำงานนั่นเอง


ในส่วนของการฟังเพลง OPPO Find Gemini ต้องขอยอมรับว่า ทำออกมาได้น่าประทับใจมากๆ


ในขณะฟังเพลงเมื่อกดที่ปุ่ม เมนู ก็จะมีฟังก์ชั่นเด้งขึ้นมาให้ปรับแต่งตามใจชอบ


ถ้าเลือกรายการปัจจุบัน ก็จะบ่งบอกว่าเพลงไหนที่กำลังเล่นอยู่


หรือถ้าเลือกลบ ก็จะสามารถลบเพลงนั้นได้ทันที


แอพพลิเคชั่นเพลงก็สามารถตั้งค่าได้เช่นกัน


สามารถเลือกโหมดการเล่นเพลงได้


เลือกสกินได้


พร้อมทั้งยังสามารถโชว์เนื้อเพลง และเปิดระบบเสียง Dirac ได้อีกด้วย


ในส่วนของเพิ่มเติมก็จะมีฟังก์ชั่นให้เลือกอีกเช่นกัน ดังภาพ


ในส่วนของการชมภาพยนตร์ เท่าที่ทดสอบการเปิดภาพยนตร์ระดับ Full HD เจ้า OPPO Find Gemini เล่นภาพยนตร์ได้อย่างไหลลื่น ไม่มีสะดุดแต่อย่างใด

กล้องดิจิตอล การถ่ายภาพนิ่ง และการถ่ายภาพวิดีโอ


User Interface ของการถ่ายภาพจากกล้องด้านหลัง


User Interface ของการถ่ายภาพจากกล้องด้านหน้า


สำหรับการถ่ายภาพจากกล้องหลักด้านหลัง สามารถตั้งค่าก่อนถ่าพภาพได้


เมื่อกดที่ไอคอนการตั้งค่า จะมีหน้าต่างระบบการถ่ายภาพให้เราเลือก ดังภาพ


เมื่อเลือกที่โหมด AW จะมีหน้าต่างเด้งขึ้นมาอีกอันเพื่อให้เลือกโหมดการปรับสีของการถ่ายภาพที่ต้องการ ตัวอย่างแรกนี้คือการเลือกแบบ AUTO


ตัวอย่างที่ 2 คือ Candescent


ตัวอย่างที่ 3 คือ Daylight


ตัวอย่างที่ 4 Fluorescent


ตัวอย่างที่ 5 Cloudy


และยังสามารถ เพิ่ม/ลด แสงได้ด้วยการเลือกที่โหมด EV ดังรูป


และยังสามารถกำหนดความละเอียดของคุณภาพของภาพได้ 2 ระดับดังรูป


นอกจากนี้ OPPO Find Gemini ยังมีฟังก์ชันพิเศษเฉพาะตัวสำหรับการถ่ายภาพ คือ Beauty Plus สำหรับคุณผู้หญิงโดยเฉพาะอีกด้วย [ในขณะที่ใช้โหมด Beauty Plus ในการถ่ายภาพ จะไม่สามารถเปิดใช้แฟลชร่วมในการถ่ายภาพได้]


ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้าที่ไม่ได้ถ่ายด้วยโหมด Beauty Plus


ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้าที่ถ่ายด้วยโหมด Beauty Plus


สำหรับฟังก์ชั่นของแฟลชจะมีดังนี้ เปิด, ปิด, เปิดตลอดเวลา และ AUTO


และยังมีฟังก์ชันสำหรับการสลับกล้องด้านหลังกับกล้องด้านหน้าด้วย


สำหรับกล้องด้านหน้าจะตั้งค่าได้เพียงแค่ AW [การปรับสี] และ EV [การปรับแสง] เท่านั้น


กล้องด้านหน้าสามารถใช้ฟังก์ชั่น Beauty Plus ได้


นอกจากนี้ OPPO Find Gemini ยังสามารถถ่ายภาพด้วยแอพพลิเคชั่น LOMO เหมือนกัน OPPO Find 3 ทุกอย่างอีกด้วย


และ OPPO Find Gemini ยังมาพร้อมกับแอพพลิเคชั่นแต่งภาพอย่าง Near Me Photo ด้วยเช่นกัน


สามารถหมุนภาพได้


การปรับโทนสี


การปรับค่าแสงสีขาว


ใส่กรอบ


และแอพพลิเคชั่น Near me Photo ยังสามารถถ่ายรูปแล้วนำไปปรับแต่งได้ทันทีอีกด้วย


ที่สำคัญ NearMe Photo ยังสามารถนำภาพหลายๆภาพมาเรียงกันในรูปแบบต่างๆได้อีกด้วย


ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอลหลักที่ด้านหลังตัวเครื่องของ OPPO Find Gemini



ตัวอย่างภาพถ่ายความละเอียด 5 ล้านพิกเซล (2560x1920 Pixels : คุณภาพสูงสุด : ไม่ผ่านการตกแต่งใดๆ)

 

สรุปผลการทดสอบของ OPPO Find Gemini

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับการรีวิว OPPO Find Gemini สมาร์ทโฟนน้องใหม่ที่สามารถใช้งานได้ 2 ซิม จากการทดสอบโดยรวมจัดได้ว่าเป็นมือถือระดับกลางที่น่าสนใจไม่น้อย เมื่อเทียบกับความสามารถที่ติดตัวมา ในส่วนของราคาและวันที่จัดจำหน่ายนั้น ทาง OPPO ยังไม่เปิดเผยมาแต่อย่างใด สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง OPPO THAI ที่ส่งเครื่อง OPPO Find Gemini มาให้ทางทีมงานเว็บไซต์ไทยโมบายเซ็นเตอร์ได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน พบกันได้ใหม่โอกาสหน้า สวัสดีครับ

จากการทดสอบการใช้งานมาได้ประมาณ 1 สัปดาห์ กับ OPPO Find Gemini ก็พอจะมองเห็นอะไรหลายๆ อย่างจากโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ จึงขอสรุปเป็นจุดเด่นและจุดด้อยตามความคิดเห็นส่วนตัวคร่าวๆ ดังนี้

จุดเด่นของ OPPO Find Gemini

- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
- สามารถใช้งาน 3G ได้จากทั้ง 2 ซิมการ์ด
- OPPO Find Gemini รองรับการใช้งานระบบ 3G ได้ทุกเครือข่ายในประเทศไทย
- มีโหมดการถ่ายรูป Beauty Plus สำหรับสาวๆ ที่ชื่นชอบการถ่ายรูป ช่วยให้ทำหน้าเนียนใสขึ้น
- OPPO Find Gemini มีหน้าจอการแสดงผล แบบ IPS LCD Capacitive ขนาด 4.0 นิ้ว ซึ่งมีความละเอียดระดับ WVGA หรือ 800x480 พิกเซล
- มีระบบเสียง Dirac ช่วยให้เสียงที่ออกมานั้น มีคุณภาพสูง และดังสนั่นเร้าใจ
- แบตเตอรี่ความจุ 1,710 มิลลิแอมป์ ซึ่งถือว่าเยอะเป็นพิเศษ เพียงพอต่อการใช้งานเกิน 8 ชั่วโมงแน่นอน
- มี Proximity Sensor ซึ่งหน้าจอจะดับทันทีขณะที่ยกโทรศัพท์แนบหู ช่วยให้ใบหน้าไม่สัมผัสกับหน้าจอขณะที่สนทนา
- ซีพียู ARM Cortex-A9 Processor ความเร็วในการประมวลผล 1 GHz ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานส่วนใหญ่
- กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียด 8 ล้านพิเซล พร้อมฟังก์ชั่นการถ่ายภาพ Beauty Plus
- รองรับการถ่ายภาพวิดีโอที่ความละเอียด 800x608 Pixels (30 fps : MPEG4)
- กล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมฟังก์ชั่นการถ่ายภาพ Beauty Plus
- สำหรับท่านที่ชื่นชอบการฟังวิทยุ OPPO Find Gemini จะมีแอพพลิเคชั่น วิทยุ FM มาให้ใช้งาน
- สามารถรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card ได้สูงสุด ขนาด 32 GB
- มี GPS (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง) ในตัว สำหรับการนำทาง ช่วยให้การเดินทางสะดวกสบายยิ่งขึ้น

จุดด้อยของ OPPO Find Gemini

- กล้องมีสีอมแดง หรืออมชมพูเล็กน้อย (แต่อาจจะเป็นที่เฟิร์มแวร์ยังไม่สมบูรณ์ เพราะเครื่องที่นำมารีวิวนั้น เป็นเพียงเครื่องทดสอบ ไม่ใช่เครื่องที่จำหน่ายจริง)
- หน่วยความจำแรม 512 MB ถ้าใช้งาน แบบหนักๆ โดยเฉพาะแอพพลิเคชั่นที่ต้องอาศัยหน่วยความจำแรมเยอะๆ ก็อาจจะไม่เพียงพอ หรือเกิดอาการหน่วงได้
- ระบบปฏิบัติการยังเป็น Android เวอร์ชัน 2.3.6 (Gingerbread)
- หน่วยความจำภายในสำหรับผู้ใช้ที่ติดเครื่องมาในเครื่องมีเพียง 4GB เท่านั้น ซึ่งอาจจะไม่เพียงพอต่อการใช้งาน หรือต้องใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD เพิ่มเติม
- ไม่มีปุ่มกดสำหรับการสลับใช้งานซิมการ์ดโดยเฉพาะ ต้องเข้าเมนูเพื่อสลับซิมการ์ด

 

โปรดทราบ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *

สรุปคุณสมบัติเครื่อง

ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ OPPO Find Gemini ได้โดยการคลิ๊กที่ Link ด้านล่างนี้

OPPO Find Gemini Specification  

 

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter | ไปหน้าแรก Mobile Focus ::